นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงราคาทองคำผันผวน และมีการปรับขึ้นลงแล้ว 13 รอบ โดยเป็นการปรับสูงขึ้นรวมแล้ว 800 บาทในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเป็นความตื่นตระหนกจากสถานการณ์บุกยูเครน ทำให้กระทบต่อราคาทองคำ ตลาดทุนตลาดหุ้น ราคาน้ำมัน และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งในช่วงนี้หากสถานการณ์ขัดแย้งในยูเครนยังยืดเยื้อ จะมีผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ รวมถึงตลาดเงิน และราคาน้ำมันต่อเนื่อง ซึ่งไม่อาจประเมินทิศทางได้แน่นอน
“ถามกันมากว่าราคาทองแท่งในประเทศ จะทะลุ (1 บาททองคำ) 3 หมื่นบาทหรือไม่ จากตอนนี้อยูู่ที่ 29,750 บาทแล้ว ส่วนทองรูปพรรณขายออกแล้ว 30,200 บาท เพราะมีการบวกค่ากำเหน็จ ผมยังมองว่าทองแท่งไม่น่าจะเกิน 30,000 บาท หากสถานการณ์ขัดแย้งยังอยู่เฉพาะพื้นที่ยูเครน และไม่ได้ลุกลามเป็นสงครามระหว่างประเทศวงกว้าง แต่ความผันผวนยังสูง แต่คงไม่ทุบสถิติที่การเปลี่ยนแปลงราคามากสุด อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน หรือการเกิดระบาดโควิด-19 รอบแรก ตอนนั้นวันเดียวราคาเปลี่ยนแปลงถึง 42 รอบ ซึ่งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ การเคลื่อนไหวราคาเริ่มนิ่งแล้ว” นายจิตติกล่าว
นายจิตติกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์การซื้อขายของร้านค้าทองคำ โดยภาพรวมพบว่าจำนวนซื้อขายค่อนข้างน้อย เบาบางผิดตาและผิดจากที่คาดการณ์ไว้ว่า เมื่อทองคำราคาดีดขึ้นจะมีผู้นำทองมาขายเหมือนสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ทองขยับวันเดียว 400 บาทต่อ 1 บาททองคำ แต่วันนี้ขึ้นไปแล้วรวม 800 บาท ซึ่งประเมินได้ 2 ส่วน คือ ประชาชนถือครองทองลดลงมาก จากที่ก่อนหน้านี้มีการนำทองคำออกมาขายเพื่อพยุงค่าครองชีพตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนอีกส่วนยังลังเล และหวังว่าราคาทองจะสูงต่อได้อีก พร้อมกับประชาชนบางส่วนมองว่าราคาทองคำขยับขึ้นสูงมากแล้ว รวมการปรับขึ้นหลังจากตรุษจีนเกิน 1,000 บาทต่อ 1 บาททองคำแล้ว
“หากสถานการณ์ยูเครนยังไม่ชัดเจนและมีโอกาสที่จะยืดเยื้อ ซึ่งขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่ว่าราคาทองคำจะผันผวนอย่างไร ร้านค้าทองก็ยังเปิดให้บริการปกติ ซึ่งร้านค้าก็ทำใจแล้วว่าจำนวนซื้อขายช่วงนี้ อาจแผ่วลงมาก เพราะเกิดความลังเล และทองคำในมือประชาชนเหลือน้อยมากแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะประชาชนหรือผู้ค้าต้องมีการติดตามสถานการณ์ยูเครนและแรงดิ่งของทองคำอย่างใกล้ชิด” นายจิตติกล่าว
