เกษตรกร 5 พืชเศรษฐกิจยิ้ม ราคาเกินเพดานประกันรายได้ ‘มันสำปะหลัง’ พุ่งเฉลี่ย 2.65 บาทต่อ กก.

ชาวสวนชาวไร่ 5 พืช ศก.ยิ้ม ราคาเกินเพดานประกันรายได้ ‘มันสำปะหลัง’ พุ่งเฉลี่ย 2.65 บาทต่อโล

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรพืช 5 ชนิด ข้าว ยาง ปาล์ม มันสำปะหลัง และข้าวโพด ที่ปัจจุบันมี 4 ชนิดที่ราคาพุ่งเกิดเพดานการประกันรายได้ บริหารจัดการโครงการโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลาง อ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ระบุว่า ได้เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2564/65 งวดที่ 4 สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตรและระบุวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563-31 มี.ค.2565 และระบุวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1-28 ก.พ.2565 และมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน โดยราคาตลาดหัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.65 บาท

นางมัลลิกากล่าวว่า ขณะนี้ราคามันสำปะหลังสดสูงเกินเพดานการประกันรายได้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรที่มีหลักประกันตามโครงการของรัฐบาล ซึ่งเดินหน้าในปีที่ 3 อย่างมั่นคงต่อไป เป็นที่พอใจของเกษตรกร ประกอบกับการผลักดันการส่งออกและการคอยเร่งรัดติดตามแก้ไขอุปสรรคปัญหาในสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบการขนส่งผ่านด่านสินค้าที่จะไปประเทศจีน เรื่องนี้นายจุรินทร์สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมด้วยทีมงานทูตพาณิชย์และทูตเกษตร ประสานงานทางการจีนอย่างต่อเนื่องหากมีขั้นตอนใดที่ติดขัดให้สามารถจัดการแก้ไขได้ทันที

นางมัลลิกากล่าวต่อว่า สำหรับโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังในงวดนี้รัฐไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรเป็นงวดที่ 4 ติดต่อกันของฤดูกาลนี้ เพราะราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในครั้งนี้สูงกว่าราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ถ้าราคาตกลงเมื่อใดเกษตรกรก็จะได้รับเงินส่วนต่างราคาชดเชยให้ตามหลักประกันของโครงการประกันรายได้จากรัฐ ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างปกติจะจ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 12 เดือนโดยเริ่มจ่ายของปีที่ 3 นี้ งวดแรกวันที่ 1 ธ.ค.2564 จนงวดสุดท้ายวันที่ 1 พ.ย.2565 ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง คือต้องทำการเพาะปลูกจริงมีการขึ้นทะเบียนโดยมีเกษตรอำเภอ เกษตรตำบลคอยดูแลเรื่องทะเบียน

นางมัลลิการะบุว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปีที่ 3 นายจุรินทร์เป็นผู้เสนอคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อนุมัติการดำเนินโครงการวันที่ 25 ต.ค.2564 กรอบวงเงิน 6,811 ล้านบาท และมีมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังปี 2564/65 วงเงิน 41.4 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2564/65 วงเงิน 15 ล้านบาท โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อกมันสำปะหลัง ปี 2564/65 วงเงิน 225 ล้านบาท และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง ปี 2564/65 วงเงิน 10 ล้านบาท อีกด้วยโดยมาตรการเสริมจะไปช่วยกระตุ้นการยกระดับราคา

Advertisement

“อีกเรื่องหนึ่งขอแจ้งคือสำหรับเกษตรกรบางส่วน โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา กรณีปัญหาเมื่อฤดูกาลเพาะปลูกรอบที่ผ่านมาคือปี 63/64 เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนภายหลังและอาจจะตกค้างเรื่องเงินส่วนต่างอยู่นั้น เรื่องนี้นายจุรินทร์ได้แก้ไขปัญหาให้ท่านแล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบจ่ายชดเชยให้ แต่ยังติดเรื่องความเห็นสำนักงบประมาณนิดหน่อยทางเทคนิคขณะที่วงเงินมีอยู่แล้ว เมื่อปลดล็อกจุดนี้แล้วทาง ธ.ก.ส.จะได้โอนเงินให้เกษตรกรตามไปเร็วๆ นี้” นางมัลลิกากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image