เฉลียงไอเดีย : ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ขอเป็นศิลปินวงการอสังหาฯ ปั้นแบรนด์ SCOPE… ‘art piece’ ที่น่าจดจำ

ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ขอเป็นศิลปินวงการอสังหาฯ ปั้นแบรนด์ SCOPE... ‘art piece’ ที่น่าจดจำ

เฉลียงไอเดีย : ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์
ขอเป็นศิลปินวงการอสังหาฯ
ปั้นแบรนด์ SCOPE… ‘art piece’ ที่น่าจดจำ

หากเอ่ยชื่อ ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ในแวดวงพัฒนาที่ดิน ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นอีกหนึ่งคนที่คลุกคลีในวงการอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่อายุ 26 ปี สั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปี บริหารโครงการพัฒนาอสังหาฯหลากหลายระดับ หลายประเภทกว่า 90 โครงการ และยังเป็นที่ปรึกษาให้อีกหลายแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย อย่าง แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น, บมจ.เอสซี แอสเสท, บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และ บมจ.พฤกษา ซึ่งมีผลงานชิ้นเอกมากมายเป็นที่ประจักษ์

มาวันนี้ “ยงยุทธ” มาในฐานะผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด เป็นการกลับเข้ามาในวงการอสังหาฯกับเป้าหมายปลุกปั้นแบรนด์ “SCOPE” ซึ่งวางตำแหน่งเป็น lifestyle company ผู้มุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด โดยชูความ “อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม” ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ นำเสนอความแตกต่างของที่พักอาศัย เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกบ้านที่เป็น “อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม”

ทำเลที่เปิดตัวล่าสุดอยู่แถวหลังสวน พื้นที่ที่เรียกได้ว่า “แพงที่สุด” ในประเทศไทย ตารางวาละ 3.1 ล้านบาท เมื่อปี 2562 ปัจจุบันราคาน่าจะทะลุ 4 ล้านบาท ต่อตารางวา ใช้ชื่อโครงการตามทำเล “SCOPE Langsuan” คอนโดมิเนียมสุดหรู ติดถนนใกล้รถไฟฟ้า BTS ชิดลม มูลค่าโครงการกลมๆ 9,000 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในไตรมาส 3 นี้ แต่มีลูกค้าจองยูนิตอย่างล้นหลามแล้ว

Advertisement

ปัจจัยสำคัญไม่ใช่แค่ทำเลที่ถือเป็น CBD ศูนย์กลางธุรกิจเท่านั้น ส่วนหนึ่งเพราะมีชื่อ “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” การันตีได้ถึงคุณภาพและการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดต่อผู้เข้าพักอาศัย

ยงยุทธขยายความว่า ด้วยความเป็นนักเศรษฐศาสตร์ และนักสถิติ จึงเชื่อมั่นในตัวเลข โดยมีทฤษฎีในการหาความน่าจะเป็นต่างๆ จึงเข้าใจว่า ปัจจุบันมีกลุ่ม International Premium เกิดขึ้น มีความชอบและรสนิยมที่ไม่ได้จํากัดเฉพาะในกระแสหลักในประเทศ และมองหาที่พักอาศัยที่เป็น International Standard ถือเป็นช่องว่างตลาดที่สำคัญ และเป็นโอกาสทองของ SCOPE ที่จะเข้าไปยึดครองลูกค้ากลุ่มนี้

“SCOPE เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ สร้างโปรดักต์โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิต นำเสนอคุณภาพและบริการระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกมิติ จึงไม่ใช่แค่ที่พักอาศัย แต่คือประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่ลูกค้ารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ” ยงยุทธวาง Positioning ให้ SCOPE จึงวางแนวทางการสร้างอาณาจักร SCOPE ให้เหมือนกับงานศิลปะที่ล้ำค่า เพราะเมื่อเป็นงานศิลปะแล้ว นั่นหมายถึง สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่น่าเก็บสะสม อีกทั้งต้องได้รับการดูแลอย่างดี ที่สำคัญยังมี “มูลค่าเพิ่ม” มากขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

“ผมอยากทำตัวเป็นศิลปินในวงการอสังหาริมทรัพย์ อยากทำ อยากเห็น Art Piece ตั้งตระหง่าน เป็นที่จดจำของคนในประเทศว่านี่คือชิ้นงานศิลปะที่ทรงคุณค่า เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมผมจึงกลับมาทำอสังหาฯ”

ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ ยงยุทธได้ข้อมูลที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ ผู้ซื้อใหม่หรือซื้อหลังแรกมีอายุน้อยลง คิดเป็นสัดส่วนถึง 55% ของผู้จองซื้อโครงการ และสัดส่วนที่เหลือก็ยังพบว่าผู้ซื้ออายุเฉลี่ยอยู่ที่ 31-35 ปี คิดเป็น 32% และอีก 23% อายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งต่างจากในอดีตที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยส่วนมากจะเป็นวัยทำงานมานานแล้วหลายปี พร้อมสร้างครอบครัว และวัยผู้ใหญ่ ซึ่งยงยุทธให้แนวทางทีมงานในการทำงานร่วมกันที่ SCOPE ไม่ได้ยึดติดกับสูตรสำเร็จใด แต่มักจะหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอให้ตลาด จึงพร้อมฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ มุ่งเน้นการออกแบบและก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมียม มาตรฐานระดับโลก

“หากถามว่าอะไรคือความเป็นตัวตนของผมที่ใส่เข้าไปในแบรนด์ SCOPE นั่นคือ การดูแลผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี ใส่ใจในความต้องการของลูกค้า การเลือกใช้สิ่งที่ดีที่สุดจากทั่วโลกเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบอินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม และการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นมาเสมอตลอดการทำงาน”

ปัจจุบัน SCOPE มี 4 โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนา มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท นอกจาก SCOPE Langsuan ที่เปิดขายแล้ว ยังมี SCOPE Promsri ที่กำลังเปิดขาย มูลค่า 1,350 ล้านบาท แล้วเสร็จไตรมาส 3 นี้เช่นกัน โดยโครงการพร้อมศรี เป็นโครงการแรกในเอเชีย Collaborate กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก Ligne Roset เฟอร์นิเจอร์เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ ทั้งออกแบบและผลิตพิเศษในฝรั่งเศส จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นคอนโด 8 ชั้น ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทั้งด้านคุณภาพ และการออกแบบ

และยังมีอีก 2 โครงการอยู่ในทำเลสุขุมวิท ติด BTS ทองหล่อ มูลค่า 2,500 ล้านบาท มี 20 ยูนิต ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 150 ล้านบาท ออกแบบภายในโดยโทมัส ยูล-ฮันเซน (Thomas Juul-Hansen) ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบอาคารระดับโลกมาแล้วทั่วโลก ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการได้ในปีนี้ อีกโครงการคือสุขุมวิท 23 มูลค่า 2,600 ล้านบาท เปิดตัวปี 2566

ถามถึงความต่างของ SCOPE กับโครงการระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่อื่นๆ ยงยุทธเชื่อมั่นว่าจะสร้างความพึงพอใจให้ผู้อยู่อาศัย ด้วย Private Residential Clubhouse ขนาดกว่า 2,500 ตารางเมตร ออกแบบโดย โทมัส ยูล-ฮันเซน มีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวขนาด 25 ที่ พร้อมระบบเสียงระดับสุดยอดที่สุด และ The Langsuan Lounge ที่ตั้งใจให้เป็น Rooftop Terrace คุณภาพเหนือกว่าโรงแรมระดับ 6 ดาว ฯลฯ

ถึงบรรทัดนี้ มองเห็นถึงจุดแข็งที่ยงยุทธยึดถือในการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ หนีไม่พ้น คุณภาพระดับสูงของสินค้า! “ผมมีความเชื่อว่าสินค้าที่ดี ไม่มีทางขายไม่ได้ และสินค้าที่ดีจะอยู่ได้ยาว ผมจึงให้ความสำคัญเสมอกับเรื่องคุณภาพ และความแตกต่างให้กับตลาด จึงมุ่งมั่นทําเรื่องของคุณภาพให้ดีด้วยความตั้งใจและจริงใจกับลูกค้า ใส่ใจในรายละเอียดในสแตนดาร์ดของ SCOPE”

ซึ่งพิสูจน์มาแล้วในช่วงการระบาดโควิด-19 แทบทุกบริษัทต่างได้รับผลกระทบ แต่ยอดขาย SCOPE ยังไปได้ ลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดี แม้ว่าการก่อสร้างโครงการต้องล่าช้าออกไป นั่นเพราะลูกค้าเชื่อใจเรื่องคุณภาพและความแตกต่าง นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ได้อีกว่าลูกค้าของ SCOPE เป็นกลุ่ม real demand ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อจริง

อีกสิ่งหนึ่งที่ ยงยุทธ ให้ความสำคัญคือ ทีมงาน! ทีมงานที่มีความสามารถ มีความแข็งแกร่ง และโฟกัสไปที่จุดมุ่งหมายทิศทางเดียวกัน คือหัวใจของการบริหารงาน “ไม่ว่าจะในยามที่เจอโอกาส หรือวิกฤต สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ต้องเตรียมพร้อมเสมอ ทุกครั้งที่มี ‘โอกาส’ เข้ามา ก็ไม่ตื่นเต้นจนติดลมหรือขาดการระมัดระวัง ทุกครั้งที่เผชิญ ‘วิกฤต’ ก็ต้องไม่ตื่นตระหนก ทีมงานต้องมีความเชื่อเหมือนกัน ทุกอย่างไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้”

ซีอีโอ ยงยุทธ จึงให้ความสำคัญกับการดูแลทุกคนให้ดี ทั้งพนักงาน ลูกค้า พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์
ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม “ผมเชื่อมั่นมาตลอดการทำธุรกิจกว่า 30 ปีที่ผ่านมาว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร สินค้าที่ขายได้เสมอคือสินค้าที่มีคุณภาพสูง และผลิตด้วยความตั้งใจ หัวใจสำคัญจึงอยู่ที่ เราต้องบาลานซ์ทุกอย่างให้ลงตัว เพื่อสร้างผลงานที่มีคุณภาพ นำเสนอให้กับตลาดและลูกค้า”

ส่วนเป้าหมายที่ถือเป็น Ultimate Goal ที่ยงยุทธอยากเห็นในอนาคตที่ SCOPE คือการเป็น Lifestyle Company ที่เด็กรุ่นใหม่อยากเข้ามาทำงาน และอยากยกระดับ SCOPE เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าในการอยู่อาศัยและใช้ชีวิต โดยเฉพาะกลุ่ม “อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม”

ซึ่งยงยุทธไม่ได้จำกัด SCOPE แค่ที่อยู่อาศัย แต่มีแผนเปิดตัวธุรกิจบริการ Hospitality ที่มากกว่าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น รวมถึงยังคิดเล่นๆ ว่า หากรีไทร์หรือพอมีเวลาบ้าง จะกลับไปพัฒนาโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่ง จากที่เปิดให้บริการแล้วหนึ่งแห่ง

เป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมของ “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” มือปั้นอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย กับการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ พร้อมให้พิสูจน์แล้ว ณ ชั่วโมงนี้

เกษมณี นันทรัตนพงศ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image