ผู้ก่อตั้ง ‘สตางค์’ แจงวิกฤตสงคราม เก็บคริปโทฯ ในรูป USDT ได้ไม่ขึ้นกับธนาคารกลาง
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( Satang และ FIRO ) เปิดเผย “มติชน” ถึงกรณีวิกฤตยูเครนและรัสเชีย โดยผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ทำให้เห็นว่า 1.เมื่อเกิดสงคราม คริปโทฯนั้นสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย โดยไม่ติดข้อจำกัดด้านกฎหมายห้ามถอนเงินโอนเงินเกินเท่านี้เท่านั้นที่ธนาคารกลางยูเครนกำหนด 2.คนยูเครนสามารถเก็บคริปโทฯไว้ได้ในรูปของ USDT หรือเงิน สเตเบิลคอยน์ ที่หนุนหลังด้วย USD ของ Tether ซึ่งสะดวกกว่าในการโอนใช้ ไม่ต้องขึ้นกับธนาคารกลางยูเครน สังเกตว่าคนยูเครนถือคริปโทฯในรูปของ USD สเตเบิลคอยน์ ไม่ได้ถือในรูปบิทคอยน์ เพราะอาจเกรงว่าราคาจะผันผวนมากไป เมื่อเทียบกับ สเตเบิลคอยน์ และ 3.ทัศนคติเรื่องเงินของคนยูเครนตอนนี้ คือ 1.ไม่ไว้ใจรัฐบาล 2.ไม่ไว้ใจธนาคารกลาง และ 3.ไม่ไว้ใจ เงินกระดาษ (fiat)
นายปรมินทร์กล่าวต่อว่า การที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลลงจุดต่ำสุดหรือยังนั้นจะต้องดูที่ 3 ปัจจัย คือ 1.สงครามยูเครนที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทำให้รัสเซียถูกคว่ำบาตรสถาบันการเงินจากชาติชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ดังนั้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) หลายชนิดก็จะพุ่งขึ้น อาทิ น้ำมันดิบ แร่ธาตุโลหะอุตสาหกรรม อย่างพาลาเดียม อะลูมิเนียม ลิเธียม จะส่งผลต่อดัชนีเงินเฟ้อทั่วโลก และหากสงครามยืดเยื้อก็คงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับทั้งโลกแน่นอน 2.ธนาคารกลางทั่วโลกจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร ขึ้นแบบทีละนิดหรือขึ้นแบบก้าวกระโดดเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ และ 3.เงินเฟ้อที่เกิดจากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเองว่าจะเฟ้อมากน้อยเท่าใด
“ราคาบิทคอยน์จะต่ำสุดหรือไม่ ขึ้นกับ 3 องค์ประกอบนี้ เพราะหากธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย ไม่ว่ามากหรือน้อย ก็ย่อมเกิดแรงกดดันต่อราคาบิทคอยน์ให้อยู่ในขาลง หรือยังไม่กลับตัวไปไหนได้ ที่ต้องจับตามองคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มีนาคมนี้” นายปรมินทร์กล่าว
นายปรมินทร์กล่าวถึงกระแสยุโรปบริจาคสินทรัพย์ดิจิทัล ช่วยยูเครนรับมือจู่โจมนั้น การบริจาคคริปโทฯคงช่วยยูเครนได้ แต่ที่มีข่าวว่ากองทัพยูเครนไม่สามารถรับการบริจาคนี้ได้ ก็คงจะต้องมาดูว่าการรับคริปโทฯจะเป็นรูปแบบใด และคนยูเครนจะเอาไปบริหารจัดการอย่างไร ในยูเครนจะมีองค์กรพัฒนาขับเคลื่อนสังคมของเอกชนต่างๆ ที่ใช้การระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิ้ง เปิดรับเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ในสังคม จากกระแสการบริจาคนี้ ทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาบิทคอยน์ดีดสูงขึ้น เมื่อ 13.00 น. ของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ขึ้นไปแตะที่ 39,926 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวลงมาเล็กน้อยในช่วงสาย
