แบงก์ชาติ มั่นใจภาคธุรกิจในรัสเซีย รับมือการปิดกั้นระบบสวิฟต์ได้
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาวิกฤติยูเครน-รัสเซีย ว่า ผลกระทบในระยะสั้น เกิดผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ความผันผวนของตลาดการเงิน จะเห็นได้จากค่าเงินบาทที่มีความผันผวนขึ้น ต่อมาภาวะเงินเฟ้อที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้น เพราะว่ายูเครน-รัสเซีย เป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอลง
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า ธปท.ยืนยันระบบการชำระเงินในประเทศไทยไม่มีปัญหา แต่ในระบบการชำระเงินของโลกต้องมาดูทิศทางความชัดเจนว่าจะมีการปิดกั้นระบบสวิฟต์ (SWIFT) กับธนาคารใดบ้างในรัสเซีย โดยตอนนี้ทางสวิฟต์อยู่ระหว่างการหารือว่า จะมีการยกเว้นบางกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตัวสวิฟต์โค้ดสามารถกำหนดรายการธุรกรรมได้ อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็มีแผนฉุกเฉินในการรับมือ โดยรัสเซียก็มีระบบสำรองไว้และอาจจะมีการเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆ แต่ประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และจำนวนธุรกรรมที่รองรับ อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับระบบสวิฟต์
“การคว่ำบาตรกับประเทศรัสเซีย ไม่ใช่พึ่งมาเกิดตอนนี้ แต่มีการเกิดมาก่อนหน้านี้เป็นระยะแล้ว ในแง่ของนักธุรกิจที่ไปลงทุนในรัสเซีย มีแนวทางที่จะบริหารจัดการได้ในระดับหนึ่ง พร้อมกับทางรัฐบาลรัสเซียมีแผนช่วยเหลือภาคธุรกิจไว้แล้ว” น.ส.ชญาวดี กล่าว
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ มองว่า นักท่องเที่ยวก้อนใหญ่จะเข้ามาในครึ่งหลังของปี โดยมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งโรคโควิด-19 และวิกฤตความขัดแย้ง ถ้าหากมีความยืดเยื้อก็ต้องมีการปรับตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลง เช่นเดียวกับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอีก จากราคาน้ำมัน ขึ้นอยู่กับความยืดเยื้อของสถานการณ์
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2565 ชะลอลงบ้าง โดยการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชนปรับลดลงจากความกังวลต่อการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับลดลงจากการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบเทสต์แอนด์โกชั่วคราว ขณะที่การส่งออกสินค้าปรับลดลงบ้าง หลังจากเร่งไปในเดือนก่อน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัว จากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางด้านการซื้อสินค้าและบริการ
“ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานและอาหารสด เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนตลาดแรงงานทยอยปรับดีขึ้นบ้าง แต่โดยรวมยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าเดือนก่อน” น.ส.ชญาวดี กล่าว