‘แม่ทองสุก’ ชี้ทองคำขึ้นวันเดียว 650 บาท ดันราคา ‘ออลไทม์ไฮ’ ทำคนแห่ขายสูงสุดนับแต่ต้นปี’65

‘แม่ทองสุก’ ชี้ทองคำขึ้นวันเดียว 650 บาท ดันราคา ‘ออลไทม์ไฮ’ ทำคนแห่ขายสูงสุดนับแต่ต้นปี’65

นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำ ราคาปรับเปลี่ยนกว่า 10 ครั้ง ทำให้มีการปรับราคาขึ้น รวม 650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทองแท่งขายออกอยู่ที่บาท (บาททองคำ) ละ 30,900 บาท รับซื้อ 30,800 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ขายออก 31,400 บาท รับซื้อ 30,244.20 บาท ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,998.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยน 32.94 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาทองคำไทยในปัจจุบันถือว่าปรับขึ้นในภาวะออลไทม์ไฮ แต่ไม่ใช่การขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทองคำไทยขึ้นไปเคยปรับขึ้นทำนิวไฮแล้วที่ 33,000 บาทต่อบาททองคำ ส่วนราคาทองคำโลกก็ยังไม่ได้ปรับขึ้นทั้งนิวไฮและออลไทม์ไฮ เนื่องจากเคยปรับขึ้นไปทำนิวไฮแล้วที่ระดับ 2,072 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งขณะนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทำให้เห็นบรรยากาศประชาชนนำทองคำออกมาขายหนาแน่นมาก โดยตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เห็นแรงขายออกมาสูงสุด นับตั้งแต่ต้นปี 2565 โดยหลักๆ มาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามรัสเซียและยูเครน รวมถึงคาดการณ์ว่าราคาทองคำยังอยู่ในขาขึ้น และมีโอกาสปรับขึ้นทำนิวไฮได้ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซียและยูเครนเป็นหลัก

“เมื่อสงครามรัสเซียและยูเครนคลายตัวลง ราคาทองคำก็จะต้องปรับลดลงตามแน่นอน แต่จะลดลงลึกมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับว่าประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะจบสวยหรือไม่สวย โดยประเมินว่าหากจบได้ไม่สวยงามนัก หมายถึงคลายตัวลงแบบรัสเซียเข้ายึดยูเครน จะส่งผลให้ราคาทองคำโลกปรับลดลงประมาณ 30-50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่จะเด้งกลับในระดับเดิม เนื่องจากมีภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยเสี่ยงระยะยาว ส่วนในกรณีหากสถานการณ์จบสวย คือสามารถคุยกันได้แบบไม่เสียเมืองให้ใคร ราคาทองคำจะลงได้ลึกกว่าเดิม โดยอาจเห็นราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวที่ประมาณ 1,800-1,920 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ก่อนจะดีดขึ้นใหม่ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินเฟ้อรออยู่ แต่คงไม่สามารถเด้งขึ้นไปในระดับเดิมได้” นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image