“อาคม” ติดตามสงครามรัสเซีย-ยูเครน ใกล้ชิด หวั่นจีดีพีปี 65 หลุด 4% สรรพากรโชว์ ตัวเลขจัดเก็บ 5 เดือน เกินเป้า 8.5 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะนี้ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินผลกระทบและหารือร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อประเมินผลกระทบร่วมกันว่าจะกระทบต่อไทยมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่ง สศค. ได้ประเมินตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2565 ไว้ในกรอบ 3.5% – 4.5% หรือในค่ากลางที่ 4% ซึ่งหากการเติบโตลดลงแต่ยังอยู่ในกรอบที่วางไว้ ก็ยังถือว่ายอมรับได้ ซึ่งหากลงมาที่ขอบล่าง อาจอาจหลุดกรอบได้ แต่เล็กน้อย ต้องรอเมินสถานการณ์โดยเฉพาะการส่งออกอีกครั้ง
“ยังต้องประเมินว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน เพราะที่เคยบอกว่าโต 4% เป็นค่ากลางของกรอบที่ประเมินไว้ที่ 3.5% – 4.5% หากจะขยับลงมา แต่ยังอยู่ในกรอบล่าง 3.5% ก็ยังยอมรับได้ แต่เราก็ยังอยากได้ 4% ในค่ากลาง หรืออาจจะเป็นไปได้ที่ขยับลงมาหลุดกรอบล่าง แต่ก็แค่เล็กน้อย ซึ่งยังต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อน โดยเฉพาะส่งออก ซึ่งไทยส่งไปรัสเซีย 3.2 หมื่นล้านบาท ก็ไม่ถึง 1% ของมูลค่าการส่งออกในภาพรวม” นายอาคม กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ทุกประเทศได้รับผลกระทบหมด โดยเฉพาะในเรื่องของราคาพลังงาน ซึ่งยอมรับว่าอาจกระทบการบริโภคภายในประเทศให้ชะลอตัวบ้าง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งปี 2565 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่ 7 ล้านคน ก็อาจจะกระทบไปด้วย ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมากน้อยแค่ไหน ยังต้องรอการประเมินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ช่วง 5 เดือน (ตุลาคม 2564- กุมภาพันธ์ 2565 ) รวม 7 แสนล้านบาท เกินเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากช่วงปลายปี 2564ต่อเนื่องต้นปี 2565 เศรษฐกิจเริ่มขยับมากขึ้น เช่น ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจโลจิสติกส์ และอุปกรณ์แพทย์ มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น และการจัดเก็บภาษีอี-เซอร์วิส ถือเป็นฐานภาษีใหม่ ที่ขณะนี้มีต่างชาติมาขึ้นทะเบียนชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) แล้ว 123 ราย จัดเก็บภาษีได้ 3,000 ล้านบาท ส่วนการจัดเก็บรายได้ทั้งปี คาดว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย