พิษขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน ศก.ไทยอาจเสียหายกว่า 2.44 แสนลบ. จีดีพีเหลือ 2.7%

พิษขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน ศก.ไทยอาจเสียหายกว่า 2.44 แสนลบ. จีดีพีเหลือ 2.7% 

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลกระทบจากกรณีพิพาทรัสเซียยูเครนที่มีต่อเศรษฐกิจไทย พบว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยความเสี่ยงของผลกระทบทางตรงที่อาจลดลง ทั้งในด้านส่งออกสินค้า รายได้จากนักท่องเที่ยว ต้นทุนวัตถุดิบที่ต้องจัดหาทดแทน และรายได้จากการส่งแรงงานจาก2ประเทศ ขณะที่ผลกระทบทางอ้อม คือ

1.ค่าเงินบาทผันผวน จากตลาดเงินโลกผันผวน จากมาตรการคว่ำบาตรของประเทศต่างๆ ต่อรัสเซีย รวมถึงความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของภาคเอกชนรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น

2.อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสเพิ่มขึ้นแตะ 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ต้นทุนการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น ผู้ขายปรับเพิ่ม ราคาขายเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น

3.มูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังพื้นที่อื่นๆ ชะลอตัวลง เศรษฐกิจโลก (โดยเฉพาะยุโรป) ที่มีโอกาสชะลอตัว และปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตชิปจะกดดัน ให้ตัวเลขการส่งออกสินค้าปี 2565 ลดต่ำลงจากเดิม

Advertisement

4. การบริโภคและการลงทุนของ ภาคเอกชนชะลอตัวลง อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และความมั่งคั่งที่ลดลง จากความผันผวนในตลาดทุนของไทยจะกดดันให้ภาคเอกชนลดการใช้จ่ายลง

5.รายได้จากนักท่องเที่ยวที่มา จากพื้นที่อื่นๆ ชะลอตัวลง เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะยุโรป ที่มีโอกาส ชะลอตัวจะกดดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยว ต่างประเทศปี 2565 ลดต่ำลงจากเดิม

ทั้งนี้ การประเมินมูลค่าความเสียหายจากกรณีพิพาทฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ในกรณีแย่ที่สุด ความขัดแย้งยืดเยื้อทั้งปี 2565 จะทำให้การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนเสียหาย 78,800 ล้านบาท การนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ/พลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เสียหาย 60,500 ล้านบาท การส่งออกสินค้าเสียหาย 54,800 ล้านบาท รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเสียหาย 50,400 ล้านบาท รายได้จากการส่งแรงงานไปท้างานต่างประเทศเสียหาย 250 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งหมด 244,750 ล้านบาท หรือกระทบต่อจีดีพี 1.5% ส่งผลจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.7% และเงินเฟ้อสูงถึง 4.5-5.5% หากกรณีแย่ระดับกลาง ที่ความขัดเแย้งจบใน 6 เดือน ความเสียหายจะอยู่ที่ 146,850 ล้านบาท กระทบต่อจีดีพี 0.9% ส่งผลจีดีพีทั้งปีอยู่ที่ 3.3% และเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.5-4.5 % อีกกรณีแย่น้อยสุด ความขัดแย้งจบใน 3 เดือน เศรษฐกิจไทยจะเสียหาย 73,425 ล้านบาท กระทบต่อจีดีพี 0.5% ส่งผลจีดีพีทั้งปีอยู่ที่ 3.7% และเงินเฟ้อสูง 3.0-3.5%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image