รถทัวร์-บขส.กระอัก เอกชนชี้ปล่อยตรึงดีเซล อาจหยุดวิ่ง หรือขึ้นค่าตั๋ว
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง เจ้าของอู่รถเชิดชัย และบริษัท เดินรถเชิดชัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรถทัวร์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ระบาดมา 2 ปี ไม่มีผู้โดยสาร เพราะผู้โดยสารเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางใช้รถยนต์ส่วนตัวและใช้รถเช่าเหมามากขึ้น จนต้องหยุดวิ่งเพราะแบกภาระขาดทุนไม่ไหว ขณะที่บางรายเหลือวิ่งวันละ 1 เที่ยว เพื่อลดค่าใช่จ่าย เป็นผลจากราคาน้ำมันก็ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ด้วย ในส่วนของเชิดชัย มีหยุดวิ่งรถบางส่วนเช่นกัน หากไปไม่ไหวจะขอให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) หยุดวิ่งชั่วคราวและให้ บขส.มาเช่ารถวิ่งแทน
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า จากราคาน้ำมันสูงขึ้น บขส.ได้รับผลกระทบเต็มๆ มีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากรัฐยังตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตรให้ จึงยังตรึงค่าตั๋วโดยสารได้อยู่ ส่วนผู้ประกอบการรถร่วม ก็อยากจะปรับราคาตั๋วเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีการเสนอเรื่องมาให้พิจารณาในเร็วๆ นี้ แต่การจะขึ้นราคาต้องได้รับอนุมัติจากกรมการขนส่งด้วย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ยังไม่มีผูประกอบการรถโดยสารขอปรับค่าตั๋วมายังกรม ทั้งนี้การที่ยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ก็ยังตรึงราคาตั๋วต่อไปได้ เพราะการจะปรับราคาต้องพิจารณาราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยเฉพาะรถวิ่งทางไกลที่จะมีปัญหาภาระต้นทุน ส่วนรถโดยสารในกรุงเทพฯมีพลังงานทางเลือกทั้วแก๊สและรถไฟฟ้าอยู่แล้วจึงไม่น่ามีปัญหา
“เรามีแผนตั้งรับไว้แล้ว หากรัฐลอยตัวน้ำมันดีเซล คงต้องมาคำนวณต้นทุนและราคากันใหม่ จากปัจจุบันรถวิ่งระยะไกล เป็นรถมาตรฐาน3 อยู่ที่ 0.50 บาท/กิโลเมตร” นายจิรุฒน์ กล่าว
นายจิรุฒน์กล่าวว่า สำหรับรถแท็กซี่ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการได้ยื่นขอปรับราคามาหลายครั้งแล้วเพราะมีต้นทุนแปรเปลี่ยนไป แต่กรมยังไม่อนุมัติ โดยช่วยลดค่าใช่จ่ายให้แทน เช่น ขยายอายุรถจาก 9 ปี เป็น 12 ปี เปิดให้มีการโฆษณาได้ ให้ใช้โทรศัพท์มือถือแทนระบบจีพีเอส เป็นต้น ทั้งนี้ ขณะนี้กรมก็มอนิเตอร์ราคาน้ำมันอยู่ตลอดเวลา
