‘วายแอลจี’ ชี้ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นแตะนิวไฮเดิมที่ 32,600 บาท หากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ

‘วายแอลจี’ ชี้ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นแตะนิวไฮเดิมที่ 32,600 บาท หากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำ ทิศทางราคายังเคลื่อนไหวแบบผันผวน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกมาแน่นอน โดยต้องติดตามว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% หรือ 0.50% เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ อาทิ หากปรับขึ้นดอกเบี้ยทันที 0.50% จะทำให้ราคาทองคำย่อตัวลงมา โดยหากข่าวรัสเซียและยูเครนจบลงได้ มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงแรงๆ สักหนึ่งรอบ เพราะในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว รวมถึงสถานะเข้าซื้อด้วย ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นราคาทองคำสปอตปรับร่วงลงมาที่ระดับ 1,950 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ก่อนจะปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,980-1,990 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยหากสถานการณ์รัสเซียและยูเครนยังยืดเยื้อ สามารถดันราคาทองคำปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ จะทำให้ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นไปแตะระดับจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ที่เคยไปถึงแล้ว อยู่ที่ 2,075 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือทองคำไทยอยู่ที่ 32,600 บาทต่อบาททองคำ

“หากสถานการณ์มีทิศทางเจรจากันได้มากขึ้น อาจเห็นแรงเทขาย จุดที่จะลงมาอยู่ประมาณ 1,860 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยมองว่าการปรับขึ้นลงครั้งละ 100 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ มีความเป็นไปได้ท่ามกลางภาวะปัจจุบัน โดยนักลงทุนจะต้องติดตามข่าวความคืบหน้าสถานการณ์รัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวน แต่ยังมีโอกาสทำกำไรได้อยู่ เพราะแต่ที่ผ่านมาการปรับขึ้นลงอยู่ประมาณ 400-500 บาทต่อวัน โดยอาจเห็นราคาทองคำไทยลงมาประมาณ 28,000 บาทต่อบาททองคำปลายๆ หรือ 29,000 บาทต่อบาททองคำต้นๆ ได้” นางสาวฐิภา กล่าว

นางสาวฐิภา กล่าวว่า ในระยะถัดไปยังมีปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ คือ ภาวะเงินเฟ้อ ที่หากยังอยู่ในระดับสูง และมีโอกาสปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะดันให้ราคาทองคำบวกขึ้นอีก แต่ตอนนี้ทุกอย่างเน้นให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในยูเครนและรัสเซียมากเป็นพิเศษ โดยจะเห็นว่าราคาทองคำปรับขึ้นในแต่ละวันจะขึ้นสูงและลงแรง สาเหตุมาจากข่าวรัสเซียและยูเครนเป็นหลัก อาทิ หากมีข่าวการเจรจาออกมา ก็จะทำให้ราคาทองคำลดลง แต่เมื่อการเจรจาไม่สำเร็จ ราคาทองคำก็จะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงทิศทางราคาน้ำมัน ที่ปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งผลักดันให้สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวขึ้นตาม โดยหากราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวในขาขึ้นอีก จากเดิมที่ปรับขึ้นไปแตะระดับ 130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ถือว่าเป็นปัจจัยที่จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะถัดไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image