พาณิชย์-เกษตร ไฟเขียวขึ้นราคาปุ๋ยเคมี เปิดทางนำเข้าข้าวสาลีเพิ่มชั่วคราว
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงข่าวผลการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานเรื่องปุ๋ย อาหารสัตว์ และผลไม้ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ปุ๋ยเคมีมีราคาขึ้นสูงขึ้น และมีปริมาณไม่เพียงพอ เบื้องต้นให้มีการปรับราคาจำหน่ายปุ๋ยได้ตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่ให้มีการขึ้นราคาเกินสมควร ต่อมาเรื่องผลไม้ ได้มีการแสวงหาตลาดใหม่ โดยใช้การจับคู่ทางธุรกิจทางออนไลน์ ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย นอกจากนี้ มีการหารือกับฝ่ายจีนในการขนส่งผลไม้ ผ่านรถไฟความเร็วสูงจากลาวไปจีน พร้อมกับเร่งรัดจีนให้มีการเปิดด่านตรวจสุขอนามัยพืชโดยเร็ว
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ต่อมาเรื่องต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีการปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปรับราคาสูงขึ้นมาก เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ผลิตอาหารสัตว์ และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด หลายฝ่ายจึงเห็นพ้องต้องกัน ให้มีการยกเลิกการจำกัดโควตานำเข้าข้าวสาลี เป็นเวลาชั่วคราวถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 และต้องไม่นำเข้าเกินกว่าที่กำหนด โดยมอบหมายให้กรมการค้าภายในไปหารือกันอีกรอบหนึ่ง แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการพิจารณาการยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง
นายทองเปลว กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัด ก.เกษตร จะมีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ เพิ่มเป็น 5 ล้านตัน พร้อมกับแนะนำการใช้ปุ๋ยให้ถูกวิธีถูกเวลา รวมไปถึงการใช้ปุ๋ยผสมผสาน เพื่อลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ จะจัดหาช่องทางการจำหน่ายปุ๋ยราคาถูกต่อไป โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการ ต่อมาเรื่องผลไม้ ในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก โดยมีผลไม้ที่สำคัญ คือ ทุเรียน จำนวน 1.5 ล้านตัน มังคุด จำนวน 4 แสนตัน ซึ่งมีการส่งไปประเทศจีนกว่า 90% และประเทศจีนมีการใช้มาตรการซีโร่โควิด โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะใช้มาตรการ 2P2S เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่จีนต้องการ พร้อมกับมีการเปิดด่านการค้าเพิ่มเป็น 6 ด่าน เพื่อลดความแออัดของด่าน
