ผู้ค้าถนนข้าวสาร โวยรัฐ ห้ามสาดน้ำจะจัดสงกรานต์ทำไม หวั่นเสียตลาดท่องเที่ยวให้ชาติอื่น

ผู้ค้าถนนข้าวสาร ถามรัฐห้ามสาดน้ำจะจัดสงกรานต์ทำไม รวมตัวเครือข่ายร้อง “บิ๊กตู่” ทบทวน

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยกับมติชนว่า ถ้ารัฐบาลผ่อนปรนให้จัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ไม่ควรห้ามเล่นน้ำสาดน้ำ เนื่องจากคนไทยหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องการเดินทางมาช่วงสงกรานต์ในประเทศไทย ด้วยนักท่องเที่ยวเขารับรู้ว่ามาเที่ยวงานสงกรานต์จะได้รับความผ่อนคลายและสนุกสนานกับการเล่นน้ำราดน้ำ หากสถานที่นั้นโฆษณาว่าจะจัดสงกรานต์แบบไหว้พระสงฆ์น้ำพระ แม้มีการนั่งกินนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้แล้วถึง 23.00 น. ก็ตาม แต่เชื่อว่าจะคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาน้อย ซึ่งเขาเดินทางไปไหว้พระสงฆ์น้ำพระตามวัดต่างๆก็ได้ ดังนั้น ในเบื้องต้นผู้ประกอบการบนถนนข้าวสาร จึงไม่มีแผนที่จะจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ และเชื่อว่าสงกรานต์ไม่มีการเล่นน้ำ บรรยากาศก็น่าจะกร่อยแน่นอน

” เมื่อไม่ให้สาดน้ำเล่นน้ำ ก็ไม่รู้ว่าจะมาทำอะไร เป็นการตัดโอกาสเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้ามาถนนคนเดิน เรื่องนี้กลุ่มผู้ประกอบการถนนข้าวสารและเครือข่ายที่เป็นถนนคนเดินทั่วประเทศ จะหารือและรวบรวมข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี ศูนย์ศบค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ขอให้ทบทวนสามารถจัดเล่นน้ำได้ในงานสงกรานต์ โดยผู้ประกอบการยอมรับได้กับความเข้มงวดการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด อย่างถนนข้าวสาร ให้จำกัดจำนวนผู้เข้าถนนข้าวสารในแต่ละช่วงประมาณ 5,000 คน หากจำนวนครบก็ปิดให้เข้า จนมีคนออก ก็เปิดให้เข้าเพิ่ม โดยมีจุดคัดกรองตรวจการฉีดวัคซีนและตรวจอุณหภูมิ และนัดจำนวนคนเข้าหรือออก ทั้งต้นถนนถึงปลายถนน เราเชื่อว่าจากสถานการณ์โควิดที่มีมากว่า 2 ปี ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนรับรู้ถึงวิธีการป้องกันเชื้อได้เป็นการดีทุก และแม้มีการติดเชื้อซึ่งยังไม่ถึงขั้นรุนแรง สามารถดูแลรักษาตัวได้ในเวลาอันสั้น ก็น่าจะเริ่มผ่อนปรนกิจกรรมที่เคยน้ำ ต้องคำนึงถึงด้านสาธารณสุข ไปพร้อมกับการเร่งฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจด้วย” นายสง่า กล่าว

นายสง่า กล่าวต่อว่า โรงแรมที่พักบนถนนข้าวสาร แม้รัฐเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว แต่ด้วยโอมิครอนยังระบาดอยู่ คนจำนวนมากก็ยังไม่ออกมาเที่ยว หรือ นักท่องเที่ยวเข้าไทยก็ยังน้อยอยู่มาก ยอดจองห้องพักจึงขยับเล็กน้อย จากสัดส่วน 10% ของห้องทั้งหมด ขึ้นเป็น 20% เท่านั้น ผู้ประกอบการจึงฝากความหวังไว้กับเทศกาลสงกรานต์ที่จะสามารถทำกิจกรรมได้เหมือนเดิม ส่วน เรื่องผ่อนคลายสถานบันเทิงกลางคืน ผับ บาร์ นั้น ที่ผ่านมาหลายราย ก็ได้มีการปรับตัว เพิ่มการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแบบร้านอาหารทั่วไป แต่ยอมรับว่ารายได้ก็ไม่ปกติ ซึ่งส่วนนี้ ก็คาดหวังยอดขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การเริ่มออกมาสังสรรค์ และพาครอบครัวออกมากินข้าวนอกบ้าน และเห็นด้วยที่จะปลดล็อกกฎหมายห้ามจำหน่ายสุราในช่วง 14.00-17.00 น. ซึ่งอาจจะเริ่มจากโซนนิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากก่อนก็ได้ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็มักมาเที่ยวและผ่อนคลายกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ตอนนี้ในหลายประเทศก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร โดยเขาใช้หลักภูมิคุ้มกันหมู่ และเริ่มถอดแมส เพราะมองว่าเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนเป็นไข้หวัด ทานยาและพักผ่อนระยะหนึ่งก็หาย

“ถ้าสงกรานต์ยังห้ามไปหมด อาจเสียตลาดนักท่องเที่ยวให้กับประเทศอื่นในอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นช่วงไฮซีซั่นภาคท่องเที่ยวและบริการของไทย พลาดช่วงนี้ไป ก็ต้องไปอีกทีไตรมาส 4 เข้าเทศกาลปีใหม่ ถือว่าเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจและทางเศรษฐกิจของไทย เรื่องนี้จะหารือในสมาชิกและเครือข่าย เพื่อนำเสนอให้ภาครัฐพิจารณาเร็วที่สุด ก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องในเดือนเมษายน เพื่อให้คนไทยและต่างชาติ ตัดสินใจการเดินทางท่องเที่ยว” นายสง่า กล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศบค.ไฟเขียวจัดงานสงกรานต์ เล่นน้ำได้ในพื้นที่อนุญาต แต่ห้ามปาร์ตี้โฟม-ประแป้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image