ธนารักษ์เผยผลตรวจสอบที่ดินมูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี บุกรุกที่ราชฯจริง รอตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มีหนังสือร้องเรียนถึงอธิบดีกรมธนารักษ์เพื่อขอให้ตรวจสอบการยึดถือ ครอบครองที่ดินกว่า 70 ไร่ ของ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย หรือ มูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี ในพื้นที่หมู่ 7 ต.สวนผึ้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่ามีการบุกรุกที่ดินราชพัสดุหรือไม่ และได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุ หรือเป็นพื้นที่ครอบครองของหน่วยงานใด และศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยดังกล่าวเข้าไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องหรือไม่
นายประภาศกล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุแปลงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2481 อ.จอมบึง-อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เนื้อที่ประมาณ 500,000 ไร่ ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 อ.จอมบึง-อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ใช้ในราชการทหาร (กองทัพบก) ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติธรรมวิโมกสิวาลัยว่ามีความประสงค์จะขอใช้ที่ดินราชพัสดุเพื่อสร้างวัด และขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบพื้นที่เพื่อสร้างวัดว่ามีจำนวนเนื้อที่เท่าใดและขอรูปที่ดินที่ใช้ประโยชน์ เพื่อจะได้ดำเนินการขออนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุเพื่อสร้างวัดให้ถูกต้องตามระเบียบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยได้ประสานสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีว่าไม่ประสงค์ที่จะขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างวัด โดยจะเปลี่ยนเป็นขอเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อทำเป็นมูลนิธิแทน ดังนั้น สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีจึงได้ประสานแจ้งให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมวิโมกสิวาลัยไปดำเนินการขอยกเลิกการขอใช้พื้นที่เพื่อสร้างวัดต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี และมายื่นคำร้องขอเช่าที่ดินราชพัสดุต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรี ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการดำเนินยื่นคำร้องขอเช่าที่ดินราชพัสดุแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การพิจารณาอนุญาตให้ขอใช้หรือให้เช่าที่ดินราชพัสดุของศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยจะต้องได้รับการพิจารณาให้ความยินยอมจากหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์ (กองทัพบก) ก่อน และต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ
นายประภาศกล่าวว่า การขอใช้ที่ราชพัสดุ ผู้ขอใช้ที่ราชพัสดุจะขอใช้ได้เฉพาะเพื่อประโยชน์ในทางราชการเท่านั้น โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ กรณีที่ราชพัสดุที่ขอใช้เป็นที่ว่างและไม่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานใด โดยยื่นคำขอใช้ต่อกรมธนารักษ์ หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ และกรณีเป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการ ซึ่งผู้ขอใช้ที่ราชพัสดุจะต้องทำความตกลงกับส่วนราชการที่ครอบครองอยู่ก่อน เมื่อได้รับความยินยอมแล้วจึงจะยื่นคำขอใช้ต่อกรมธนารักษ์หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่
“กรณีนี้ กรมธนารักษ์จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือ พร้อมกัน 4 ฝ่าย ประกอบด้วย กรมธนารักษ์ กองทัพบก สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และตัวแทนมูลนิธิที่บุกรุก ส่วนจะมีการขับไล่ หรือบทลงโทษหรือไม่จะต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยจะทราบผลในเร็วๆ นี้ รวมถึงหาแนวทางในการแก้ปัญหาการบุกรุก” นายประภาศกล่าว