| ผู้เขียน | อัมพวัน อยู่กระทุ่ม |
|---|
ควบรวมกิจการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที ได้ครบปี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากโลโก้และสีขององค์กรที่เปลี่ยนจากฟ้าและส้มมาเป็นสีเหลืองแล้ว อย่างอื่นแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อาจเป็นเพราะไร้เบอร์หนึ่งตัวจริง และเพิ่งประกาศรับสมัครรอบ 2 ไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา จากรอบแรกที่มีผู้ยื่นใบสมัคร 5 ราย แต่ไม่มีผู้ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเรื่องนี้ก็ทะแม่งๆ ตั้งแต่ครั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เกริ่นสเปกซีอีโอ “เอ็นที” ในใจชัดๆ ว่า ต้องเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในวงการโทรคมนาคม
และด้วย “หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ” ที่มีภารกิจล้นมือ ซ้ำล่าสุด “คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)” ยังได้กำชับให้เร่งพัฒนาและบริหารจัดการระบบ 5G และดาวเทียมไทยคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นการสรรหาซีอีโอรอบนี้จะพลาดอีกไม่ได้
กระแสข่าวจึงสะพัดว่า มีการทาบทามผู้ที่ถูกวางตัวไว้ตั้งแต่ต้น อย่าง พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่แคท และอดีตกรรมการเอ็นที มานั่งเป็นซีอีโอคนใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ตื๊อกันอยู่นาน แต่ยังไม่พร้อม
โดยสาเหตุที่ “พ.อ.สรรพชัย” เนื้อหอมสุดเป็นเพราะตลอดระยะการดำรงตำแหน่งซีอีโอ แคทมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ จนแจกโบนัสพนักงานถึง 4.5 เดือน ถือว่าสูงมาก จึงเป็นเครื่องการันตีอย่างหนึ่ง
อีกทั้งข้อดีของการมีซีอีโอที่อยู่ในวงการมานาน คือ สานต่องานได้ทันที แต่อาจจะขาดไอเดียใหม่ๆ เพื่อยกระดับองค์กร และต้องจับตาศึกในที่ว่า มุมของคนทีโอทีจะยอมรับแม่ทัพใหญ่จากแคทมากน้อยแค่ไหน
และอย่าลืมว่า “พ.อ.สรรพชัย” ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการซีอีโอยุครัฐประหาร แสดงให้เห็นชัดๆ ว่า เป็นคนของ คสช. โมเดลแบ่งสรรปันส่วนให้คนของรัฐบาลแทรกซึมอยู่ในหลายบริษัท
…การเฟ้นหาบิ๊กเอ็นทีครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม
