บางจากฯ มั่นใจ ‘บีบีจีไอ’ ผู้นำผลิตภัณฑ์ชีวภาพ แฟลกชิพเติบโตยั่งยืน

บางจากฯ มั่นใจ ‘บีบีจีไอ’ ผู้นำผลิตภัณฑ์ชีวภาพ แฟลกชิพเติบโตยั่งยืน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบางจากฯ ดำเนินธุรกิจด้วยการนำนวัตกรรมสีเขียวพัฒนาธุรกิจ สร้างความยั่งยืน เป็นผู้นำโมเดล Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG ซึ่งวันนี้ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่วางเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality ในปี ค.ศ. 2030 และเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนธุรกิจสีเขียวจึงยิ่งทวีความสำคัญ โดยมี บริษัท บีบีจีไอ จำกัด(มหาชน) เป็นหนึ่งในธุรกิจ New S-Curve ของการเสริมสร้างธุรกิจสีเขียวด้วยไบโอเทคโนโลยี ซึ่งเป็นคำตอบที่สำคัญมากในการผลักดันให้ทั่วโลกลดการบริโภคสินค้าที่ผลิตมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้บางจากฯ มั่นใจว่าบีบีจีไอจะเป็นอีกหนึ่งแฟลกชิพที่สร้างการเติบโตและสร้างรายได้ให้กับบางจากฯ

ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่องภาวะโลกร้อน สัดส่วนของเชื้อเพลิงชีวภาพก็ยังต้องมีหรือมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เชื้อเพลิงชีวภาพจึงเป็นธุรกิจที่สำคัญและยังมีอนาคต และระหว่างนี้ บีบีจีไอ ซึ่งเป็นผู้นำด้านเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศยังได้มีการเพิ่มเติมจุดแข็ง ด้วยการปรับเปลี่ยนจากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพสู่ผลิตภัณฑ์ชีวภาพหรือ Bio-Based Products โดยมุ่งเน้นที่ HVP (High Value Bio-based Products – ผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง) ด้วยเทคโนโลยี SynBio เพื่อตอบโจทย์การเติบโตทางธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของกลุ่มบางจากฯ

โดยบางจากฯ ถือเป็นองค์กรแรกๆ ของประเทศไทยที่แนะนำเทคโนโลยี SynBio ให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ปี 2562 ผ่านการจัดสัมมนาประจำปีในหัวข้อ “SynBio Forum 2019” และได้ตั้งเป้าให้บีบีจีไอเป็นผู้นำทัพในการดำเนินธุรกิจนี้ ที่ได้รับการขนานนามว่าธุรกิจเปลี่ยนโลก

Advertisement

“SynBio เป็นนวัตกรรมสีเขียวที่สำคัญ เปรียบเสมือนการทำฟาร์มในห้องแล็บ ช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร สามารถลดพื้นที่ในการทำปศุสัตว์ และมีผลโดยตรงกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ที่ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าต่อยอดจากสินค้าเกษตรอันเป็นรากฐานของประเทศ แต่ยังเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก สอดรับกับแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ดูแลสุขภาพ ซึ่งขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิมทั่วทั้งโลกภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงอีกด้วย”
นายชัยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image