‘ม.สวนสุนันทา’​ จับมือ ‘ลีโอ โกลบอล’​ ผลิตบุคลากร​ป้อนตลาดโลจิสติกส์​

‘ม.สวนสุนันทา’​ จับมือ ‘ลีโอ โกลบอล’​ ผลิตบุคลากร​ป้อนตลาดโลจิสติกส์​ หลังความต้องการทะลุ 1 แสนคน/ปี

รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ร่วมกับบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีความประสงค์ในด้านการพัฒนาบุคลากร โดยทางมหาวิทยาลัยฯ มีภารกิจหลักในการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพาณิชยนาวี การจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ ให้กับนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา

ทั้งนี้ ในส่วนบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จะรับผิดชอบในการรับนักศึกษาเข้ามาฝึกฝนและปฏิบัติงานจริง รวมทั้งสนับสนุนทุนการศึกษาและเบี้ยเลี้ยงในการทำงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 ปี 1 เทอม ของการศึกษา และเมื่อจบการศึกษาและผ่านการการทดลองงานแล้วก็บรรจุเป็นพนักงานประจำของลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ด้วย

รศ.ดร.ชุติกาญจน์ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การเรียนการสอนต้องเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จึงได้พัฒนาและขับเคลื่อนในการผลิตบัณฑิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ประเทศชาติ ด้วยการเปิดหลักสูตร Sandbox บูรณาการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ กับผู้ประกอบการเอกชน โดยเฉพาะหลักสูตรด้านโลจิสติกส์ พร้อมทั้งเปิดระบบธนาคารหน่วยกิตด้วย

ทั้งนี้ ในแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา สามารถผลิตบุคลากรด้านโลจิสติกส์ ทั้งการสอนภายในมหาวิทยาลัยฯ และสอนผ่านทางไกลกว่า 1,000-2,000 คนต่อปี ขณะเดียวกัน จากสถิติของบัณฑิตที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฯ พบว่า มีงานทำ 98% ส่วนอีก 2% จะเป็นบัณฑิตที่ประสงค์จะศึกษาต่อ และประกอบธุรกิจส่วนตัว จึงการันตีว่า เมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฯ จะมีงานทำ 100%

Advertisement

ด้าน นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์จำกัด (มหาชน) กลาวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจญ ในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ในการมอบทุนการศึกษา และสนับสนุนการผลิตบุคลากรสมรรถนะสูงด้านโลจิสติกส์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาและขยายธุรกิจร่วมกับบริษัทฯ โดยมีเป้าหมายในการสร้าง New S-Curve ใหม่ให้กับธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน และมีแบบจำลองธุรกิจ (Business Model) ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์​ว่าธุรกิจโลจิสติกส์ จะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ซึ่งในแต่ละปีมีความต้องการกว่า 100,000 คน โดยเฉพาะด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกของไทยที่เติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และคาดว่า ในปี 2565 จะดีกว่าปี 2564 รวมถึงในอีก 3-5 ปี ธุรกิจโลจิสติกส์ จะเติบโตและสดใสอย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image