‘เฉลิมชัย’ พอใจผลไม้ไทยไปจีนล็อตแรกด้วยรถไฟสาย ‘จีน-ลาว’ ผ่านด่านโมฮ่านในยูนนาน

‘เฉลิมชัย’ พอใจผลไม้ไทยไปจีนล็อตแรกด้วยรถไฟสาย ‘จีน-ลาว’ ผ่านด่านโมฮ่านในยูนนาน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 เมษายน ว่า การขนส่งทุเรียน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และมะพร้าวจำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ทางรถไฟจากสถานีรถไฟมาบตาพุตจังหวัดระยองในภาคตะวันออกสู่ประเทศจีน โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และ ส.ส.ระยอง เป็นประธานการปล่อยขบวนรถเมื่อวันที่ 27 มีนาคมได้ถึงช่วงสุดท้ายที่สำคัญมากคือการขนส่งข้ามพรมแดนลาวที่ด่านบ่อเตนสู่แผ่นดินใหญ่จีนที่ด่านโมฮ่านมณฑลยูนนานได้ในวันนี้

นับเป็นระบบการขนส่งหลายรูปแบบ (Multi Modal Transportation) คือใช้ทั้งระบบรางและระบบรถที่เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีที่ยังไม่สามารถขนส่งผลไม้ทางรถไฟจากลาวข้ามแดนไปด่านรถไฟโมฮ่านโดยตรง เนื่องจากจีนกำลังก่อสร้างอาคารและลานตรวจโรคพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่านจึงต้องไปใช้การตรวจโรคพืชที่ด่านโมฮ่านซึ่งเป็นด่านใหญ่ด่านเดิมไปพรางก่อน

“ทั้งนี้ ได้รายงานให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ทราบแล้ว โดยท่านรัฐมนตรีได้แสดงความพอใจแผนโลจิสติกส์เกษตรที่ประสบผลสำเร็จจากการทดสอบการขนส่งทุเรียนและมะพร้าวน้ำหอมล็อตแรกจากไทยผ่านลาวไปจีนภายใต้พิธีสารผลไม้ไทย-จีน ด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยได้สั่งการให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ในวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายนเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอน เนื่องจากการขนส่งล็อตแรกยังมีความล่าช้ากว่าเป้าหมายรวมทั้งการจัดการเรื่องพิธีการเอกสารของหน่วยงานต่างๆ การจองขบวนรถไฟ ตารางการเดินรถ และค่าระวางการขนส่งในระบบ ‘ราง-รถ’ ให้สามารถเพิ่มปริมาณการขนส่งผลไม้บนเส้นทาง ‘หนองคาย-เวียงจันทน์-บ่อเตน-โมฮ่าน’ ให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อเป็นอีกทางเลือกใหม่ของการขนส่งผลไม้ไทยไปจีนสำหรับฤดูการผลิตปี 2565” นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการขนส่งผ่านท่าเรือหวุงอ๋างว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมากในการประสานงานกับลาว และเวียดนามในการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้และสินค้าเกษตรออกทางด่านนครพนม-ด่านท่าแขกแขวงคำม่วนของลาวเข้าสู่เวียดนามที่ด่านชายแดนนาเพ้า-จาลอ จังหวัดกว๋างบิ่ญ โดยมีปลายทางที่ท่าเรือน้ำลึกหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีระยะทางไม่ถึง 300 กิโลเมตร เพื่อลงเรือสินค้าไปยังตลาดปลายทาง เช่น ท่าเรือซินโจว และฟรีโซนหนานหนิงในเขตปกครองตนเองกว่างสี ท่าเรือกวางโจว เซิ่นเจิ้น ฮ่องกง เซี๊ยะเหมิน หนิงโป เซี่ยงไฮ้ เกาหลี ญี่ปุ่น และทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เพื่อย่นระยะทางและเวลาในการขนส่งโดยไม่ต้องย้อนใต้ไปผ่านท่าเรือสิงคโปร์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายอีสานเกตเวย์และระเบียงเศรษฐกิจอีสานภายใต้การบริหารโลจิสติกส์เกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ โดยบูรณาการทำงานเชิงรุกกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนภาควิชาการและภาคเกษตรกร ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดอีสานเหนือไปแล้วทั้งเส้นทางขนส่ง ‘ราง-รถ’ ผ่านด่านหนองคายและงานมหกรรมพืชสวนโลกปี 2569 ที่อุดรธานี เป็นการโปรโมตอีสานและประเทศไทยโดยความร่วมมือกับประเทศอาเซียนและจีน และยังเป็นการเชื่อมโยงตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ระหว่างไทย ลาว เวียดนาม และจีน หนึ่งในยุทธศาสตร์การเปิดเสรีทางการค้าของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image