‘นฤตม์’ รองเลขาธิการบีโอไอ เผยแนวโน้มลงทุนไตรมาสแรกดีขึ้น ชี้มาตรการเปิดประเทศของไทยกระตุ้นผู้บริหารบริษัท-ผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้าไทยเคาะลงทุน เปิดอุตฯ-กิจการมาแรง อีวีเนื้อหอมค่ายรถต่อคิวลงทุน เหตุแพคเกจเด่นสุดในอาเซียน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ปี 2564 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2565 (มกราคม-มีนาคม) ภาพรวมการลงทุนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ปัจจัยหนุนสำคัญคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการส่งออกเติบโตสูง เพราะประเทศต่างๆ เริ่มเปิดประเทศ ปรับตัวอยู่กับโควิด มีการเดินทาง ท่องเที่ยว ทำกิจกรรม ความต้องการสินค้าในตลาดโลกจึงเพิ่มสูงขึ้น หลายอุตสาหกรรมขยายตัวได้ดี และความสนใจลงทุนจากต่างประเทศยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนว่านักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทย อีกทั้งมีกลุ่มที่ย้ายฐานการผลิตเนื่องจากสงครามการค้า และกลุ่มที่ตัดสินใจขยายการลงทุนในไทยเพื่อลดความเสี่ยงจากซัพพลาย เชน ดิสรัปชั่น ประเทศผู้ลงทุนหลักยังคงเป็นญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และยุโรป
“มาตรการเปิดประเทศของรัฐบาลช่วยทำให้การเดินทางเข้าประเทศไทยของกลุ่มนักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญสะดวกมากขึ้น ส่งผลดีต่อการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะโครงการใหม่ๆ ที่ผู้บริหารบริษัทจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาเจรจาธุรกิจ และดูที่ตั้งโครงการด้วยตัวเอง โดยภาพรวมการลงทุนที่ชัดเจนอยากให้รอติดตามผลการประชุมบอร์ดบีโอไอ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 7 เมษายนนี้” นายนฤตม์กล่าว
นายนฤตม์กล่าวว่า อุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดี อาทิ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นผลมาจากการย้ายฐานการผลิตและความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้น อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี มีความสนใจลงทุนจากค่ายรถทั้งรายเดิมและรายใหม่มากขึ้น โดยไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีมาตรการส่งเสริมอีวีครบวงจร ถัดมาเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ ขยายตัวจากสถานการณ์โควิด นอกจากนี้ก็มีอุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร เคมีภัณฑ์ และธุรกิจด้านดิจิทัล ขณะเดียวกันกลุ่มสาธารณูปโภคและโลจิสติกส์ลงทุนสูง อาทิ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า
