นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งนี้ไม่อยากให้มองว่าทำเพื่อหวังผลทางด้านรายได้ แต่อยากให้มองถึงการหวังผลที่ลดการสูบบุหรี่ลง เพราะจากสถิติการขึ้นราคาในแต่ละครั้งช่วยลดปริมาณคนสูบได้จำนวนหนึ่ง
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การขึ้นภาษีบุหรี่มีผลวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 เนื่องจากไม่ต้องการให้มีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้น และคาดว่าจะช่วยลดการบริโภคลง โดยผลพลอยได้จากการขึ้นภาษีครั้งนี้จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท
“ยืนยันว่าไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลเรื่องการขึ้นภาษีอย่าแน่นอน การทำภาษีแต่ละครั้งต้องเป็นความลับ เพราะถือความเป็นธรรมของการค้า มีผลต่อเรื่องความโปร่งใส กรมกังวลมาก และได้ติดตามการสั่งซื้อของโรงงานยาสูบก็ไม่ได้พบความผิดปกติใดๆ ส่วนการจัดเก็บภาษีในช่วงตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในภาวะปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจนเป็นนัยยะว่ามีการกักตุน “นายสมชายกล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า หลังจากมีการขึ้นภาษีบุหรี่ ได้สั่งการให้มีการเตรียมการ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และดูแลการลักลอบสินค้าตามแนวชายแดนให้มากขึ้น ซึ่งกรมต้องประสานหน่วยงานอื่น อาทิ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานปกครอง เพื่อป้องกันการลักลอบสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในไทย โดยก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบและป้องกันเรื่องนี้เป็นระยะอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ขอให้มีการเข้มงวดมากขึ้น
นายสมชาย กล่าวถึงเรื่องภาษีสุรากรมคงไม่สามารถพูดได้ว่าจะมีหรือไม่มี เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของนโยบาย อย่างไรก็ตามภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่งปรับขึ้นไปเมื่อ 4 กันยายน 2556
นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการแผนกบรรษัทสัมพันธ์ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ผู้นำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ในครั้งนี้ถือว่าปรับขึ้นสูงมาก คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการของบุหรี่ราคาแพง เนื่องจากผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำ โดยจากสถิติพบว่าบุหรี่ที่มีราคาต่ำมากคือต่ำกว่า 45 บาทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น จากการขึ้นภาษีเมื่อปี 2555 ส่วนแบ่งตลาดของบุหรี่ราคาต่ำอยู่ที่เมื่อปี 2555 อยู่ที่ 23.5% แต่ล่าสุดเมื่อปี 2559 ขึ้นมาเป็น 34.6% ขึ้นมากว่า 11 จุด ถือว่าสูงมาก ดังนั้นมองว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้น่าจะมีผลให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า และบางส่วนคงหันไปสูบยาเส้นมวนเองที่ไม่เสียภาษีแทน
“การขึ้นภาษีครั้งนี้จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้บุหรี่ราคาถูกขายดีมากขึ้น พบว่าภาระภาษีของบุหรี่นั้นมีสัดส่วนถึง 70% ของราคาบุหรี่ แบ่งเป็น 60% เป็นภาระจากภาษีสรรพสามิต และอีก 10% ภาระอื่น ๆ อาทิ ส่งเงินให้สสส. ไทยพีบีเอส กองทุนกีฬาฯ เป็นต้น”นายพงศธรกล่าว
