‘ศักดิ์สยาม’ เคาะตำแหน่งท่าเรือแลนด์บริดจ์ 2 จุด คาดใช้งบลงทุน 4 แสนล้าน เตรียมพร้อมโรดโชว์สู่เวทีระดับโลก
เมื่อวันที่ 22 เมษายน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ครั้งที่ 2/2565 ผ่านการประชุมทางไกล ว่า ที่ปรึกษาได้นำเสนอการคัดเลือกพื้นที่ทางเลือกท่าเรือที่เหมาะสมที่สุดฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง คือ พื้นที่แหลมอ่าวอ่าง และฝั่งอ่าวไทย จังหวัดชุมพร คือ พื้นที่แหลมริ่ว เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถรองรับปริมาณสินค้าได้ 20 ล้านทีอียู ตามผลการคาดการณ์ปริมาณสินค้าที่จะเข้ามาที่ยังแลนด์บริดจ์
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า รวมทั้งยังสามารถขยายท่าเรือในอนาคต ให้สามารถรองรับปริมาณสินค้าได้มากถึง 40 ล้านทีอียู เทียบเท่ากับปริมาณสินค้าที่ท่าเรือสิงคโปร์ในปัจจุบัน และอยู่ใกล้กับร่องน้ำลึก รองรับการเข้าใช้งานของเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ และตำแหน่งท่าเรือ ยังสอดคล้องกับผลการศึกษาแนวเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และระบบราง MR8 ชุมพร-ระนอง โดยผลการศึกษาเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในระยะเริ่มต้นประมาณ 400,000 ล้านบาท
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ได้เร่งรัดเสนอคณะทำงานบูรณาการโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามันกับแหล่งมรดกทางธรรมชาติพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาในประเด็นผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลกและพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และที่ปรึกษา ศึกษาปริมาณสินค้าและแผนทางการพัฒนาความสามารถในการรองรับสินค้าของโครงการแลนด์บริดจ์ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้โครงการมีความน่าสนใจ และสามารถแข่งขันกับโครงการการพัฒนาท่าเรือในประเทศต่างๆ อาทิ โครงการ East Coast Rail Link (ECRL) โครงการมะละกาเกตเวย์ ในประเทศมาเลเซีย และโครงการดาราสาคร ในประเทศกัมพูชา รวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหลังท่าให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า และอุตสาหกรรมครบวงจร รวมถึงให้พิจารณาข้อกฎหมายที่สนับสนุนการดำเนินโครงการ อาทิ การตรา พ.ร.บ. ฉบับใหม่สำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 โดยการขยายพื้นที่โครงการ และพิจารณาข้อจำกัดและแนวทางการดำเนินการของ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 สำหรับกรณีโครงการที่มีเจ้าของโครงการหลายหน่วยงาน เป็นต้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้เร่งรัดให้ สนข. จัดเตรียมข้อมูลรายละเอียด เพื่อนำเสนอ ไทย แลนด์บริดจ์โมเดล ในเวทีการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 (TPTWG 52) พร้อมเตรียมโรดโชว์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งในระดับพื้นที่โครงการ และการประชาสัมพันธ์ไปสู่นักลงทุนต่างประเทศในช่องทางต่างๆ อีกด้วย