ส.โรงแรม วอนรัฐ ต่อเราเที่ยวด้วยกัน พยุงยอดจองช่วงโลว์ซีซั่น

ส.โรงแรม วอนรัฐ ต่อเราเที่ยวด้วยกัน พยุงยอดจองช่วงโลว์ซีซั่น

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวหลังสงกรานต์ ว่า คาดว่าจะมียอดจองน้อยลงเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น อีกทั้งในเดือนพฤษภาคม ศบค.อนุญาตให้โรงเรียนเปิดการสอนแบบออนไซต์ อาจทำให้การท่องเที่ยวลดลงกว่าช่วงไฮซีซั่นแต่ห้องพักยังมีการจองเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทย อย่างไรก็ตาม แม้ ศบค.ได้มีการปลดล็อกมาตรการการ Test&Go เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวอาจจะไม่มากนัก  แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี หากมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่ม ผู้ประกอบการโรงแรมจะได้รับประโยชน์มากขึ้น

นางมาริสา กล่าวว่า ส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหญ่ของไทยที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละเกือบ 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาในประเทศ หากภายในประเทศจีนมีการปลดล็อกให้ประชากรในบางมณฑลสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ไทยก็มีแนวโน้มจะได้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จากจีน

นางมาริสา กล่าวว่า อยากให้รัฐทำโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ต่อไปอีก เพราะผู้ประกอบการโรงแรมยังพึ่งพานักท่องเที่ยวภายในประทศเป็นส่วนใหญ่ ไม่เพียงช่วยผู้ประกอบการโรงแรม โครงการดังกล่าวสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว เพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังมีน้อย บางจังหวัดในภาคใต้ที่อาศัยนักท่องเที่ยวจากยุโรปเป็นหลักยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่บางโรงแรมรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหรือยูเครนเยอะ นักท่องเที่ยวชาติดังกล่าวน้อยลง คาดว่าช่วงโลว์ซีซั่นน่าจะมีการกระตุ้นจากนักท่องชาติอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในอนาคตยังมีการท้าทายต่อเพราะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายพลังงานเพิ่มขึ้น การแข่งขันจะสูงขึ้น แต่ราคาห้องพักก็ไม่ได้มีการปรับราคาขึ้น เพราะยังคงมีการแข่งขันในตลาดสูง เพื่อพยุงธุรกิจโรงแรมให้ไปได้ต่อ ผู้ประกอบการยังคงราคาที่พักเท่าเดิมเพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการ

นางมาริสา กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดโควิด 2 ปีที่ผ่านมา หลายโรงแรมยังไม่มีการเปิดให้บริการ เพราะนักท่องเที่ยวหายออกไปจากตลาดท่องเที่ยว 85-90% ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายลง ลดต้นทุนเงินเดือน ลดค่าบริหารจัดการลง แต่รายได้ที่เข้ามาก็ยังขาดทุน มีหนี้เพิ่มขึ้น เกิดการกู้ยืมมากขึ้นจนเกิดเป็นภาระหนี้ สมาคมโรงแรมจึงต้องการให้รัฐบาลลดการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของภาคธุรกิจโรงแรม เพราะภาษีที่ดินประเมินราคาจากมูลค่าที่ดินและทรัพย์สิน ซึ่งรายได้ของผู้ประกอบการโรงแรมสวนทางกับรายรับมาก จากนักท่องเที่ยวหายไป เพราะฉะนั้นสำหรับการประเมินราคาที่โรงแรมต้องจ่ายภาษีที่ดิน 100% ตามอัตราปกติเป็นไปได้ยากในภาวะธุรกิจโรงแรมยังขาดทุน การเก็บภาษีที่ดินเต็มอัตราจึงเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการ อยากให้รัฐคงการลดเก็บภาษี 90% เช่น 2 ปีที่ผ่านมาไว้ก่อน ถ้าไม่สามารถลดได้อยากให้มีการปรับภาษีที่ดินขึ้นแบบขั้นบันได และสามารถผ่อนจ่ายได้โดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาการใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image