“แสนสิริ” ย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯลักซ์ชัวรี่ เปิดตัว “DEMI Sathu49” เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ เผยมีดีมานต์ต่อเนื่อง

“แสนสิริ” ย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯลักซ์ชัวรี่ เปิดตัว “DEMI Sathu49” เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ เผยมีดีมานต์ต่อเนื่อง

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยลักซ์ชัวรี่แนวราบไทยยังคงส่งสัญญาณบวกและแข็งแกร่ง อุปทานในกลุ่มนี้ยังมีไม่มากนัก ขณะที่อุปสงค์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังสูง โดยมีจำนวนหน่วยขายได้ไปทั้งสิ้นถึง 14,766 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายถึง 72% ในปีที่ผ่านมา โดยบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10-20 ล้านบาท มีดีมานต์มากที่สุด รองลงมาคือ 21 – 30 ล้านบาท และ 31 – 40 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ แสนสิริมองเห็นแนวโน้มโอกาสเติบโตของตลาดลักซ์ชัวรี่แนวราบ รวมทั้งความเชี่ยวชาญผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ จากประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 37 ปี และแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน พิสูจน์ความสำเร็จจากผลงานปิดการขาย บ้านแสนสิริ พัฒนาการ โครงการแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ นาราสิริ แบรนด์บ้านเดี่ยว Luxury in Details งดงามในรายละเอียด ซึ่งปิดการขายในทุกโครงการ รวมถึงล่าสุด บูก้าน (BuGaan) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสซิเดนท์ ราคา 35.9 – 80 ล้านบาท หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection ย่านโยธินพัฒนา ที่ปิดการขายภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ขณะที่บ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ และ บุราสิริ ระดับราคา 8 – 20 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามปิดการขายรวด 5 โครงการ ทำให้แสนสิริ มียอดขายจากโครงการเซกเมนต์ระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่รวมถึง 11,000 ล้านบาท ยอดโอนรวม 8,900 ล้านบาท และ Sold Out รวมทั้งสิ้น 8 โครงการในปีที่ผ่านมา

นายอาณัติกล่าวว่า ในปีนี้ แสนสิริสานต่อความสำเร็จในผู้นำแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ รวมทั้งตอกย้ำผู้นำ Taste-Maker Brand ด้วยการเปิดตัว DEMI (เดมี) ลักซ์ชัวรี เรสซิเดนซ์แนวคิดใหม่ แบรนด์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ที่พัฒนาจาก YOU-Centric ภายใต้แนวคิด “YOU Are Made For Life” ที่มี “คุณ” ทุกคนเป็นศูนย์กลาง ในการพัฒนาโครงการที่คิดมาจากความ ต้องการของลูกค้า สะท้อนสู่ ฟังก์ชันและงานดีไซน์ที่โดดเด่น เพราะบ้าน ไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่แห่งความสุขและประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มีคุณค่า ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Space of Home” และ “The Convenience and Modern Lifestyle”ตอบทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ ใช้ชีวิตทุกด้านได้อย่างสมดุล หลงใหลชีวิตเมือง สะท้อนรสนิยมโดดเด่นไม่เหมือนใครการพัฒนาโครงการ DEMI ไม่จำกัดว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว โดยจะต้องประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก คือ Private Communityเน้นความเป็นส่วนตัวสูง จำกัดจำนวนยูนิตไม่เกิน 100 หลังในแต่ละโครงการ บนที่ดินและทำเลที่เป็น Rare item ดีไซน์และฟังก์ชันโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่ง Customize ให้เหมาะกับในแต่ละทำเลและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า เจาะกลุ่ม Young Successor ที่ใช้ชีวิตแบบคนเมือง (Urban Lifestyle)และประสบความสำเร็จเร็ว เปิดขายในระดับราคา 15 – 28 ล้านบาท บนโลเคชั่นที่เน้นทำเลเมืองที่เชื่อมต่อใจกลางเมือง CBD ได้อย่างง่ายดาย โดยทำเลแรก สาธุประดิษฐ์ พร้อมเล็งเปิดตัวในทำเลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

“แสนสิริ เห็นโอกาสที่เติบโตของตลาดลักซ์ชัวรี่แนวราบที่มีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ Young Successor ที่ไม่ได้มีความเปราะบางเรื่องราคาเนื่องจากตัดสินซื้อบ้านเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต จึงพัฒนาแบรนด์ใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ “DEMI” เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ที่ยังมีอยู่ในตลาดรวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบันที่ใช้ชีวิตแบบ Social Distancing ทำให้คนต้องการบ้านที่มีพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่ยังคงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เมืองที่คุ้นเคยและสะดวกสบาย คนรุ่นใหม่ ต้องการใช้พื้นที่สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิต และครอบครัวคนรุ่นใหม่ ต้องการพื้นที่ ที่สามารถตอบโจทย์ไฟล์สไตล์การใช้วิตที่หลากหลายขณะที่แสนสิริมีบ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ และ บุราสิริ ระดับราคา 12-25 ล้านบาท ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย รวมถึงได้รับการตอบรับที่ดีอยู่แล้ว จึงเห็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับที่อยู่อาศัย Luxury Residence เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่ม Young Successorที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมืองเดินทางสะดวกไม่ไกลจาก CBD เพราะยังคุ้นชินกับการชีวิตในเมือง แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่คอนโดมองหา space ที่มากขึ้น”นายอาณัติ กล่าว

Advertisement

นายอาณัติกล่าวว่า โครงการแรก เดมี สาธุ 49 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ ในรูปแบบดีลักซ์ ทาวน์โฮมท่ามกลาง Exclusive Community เพียงจำนวน 72 ยูนิต ระดับราคา 18.9 – 35 ล้านบาท เปิดชมโครงการครั้งแรก 1 พฤษภาคมนี้ประกอบด้วย 2 แบบบ้าน คือ DEMI 6 กว้าง 6 เมตร 3 ชั้นครึ่ง 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 212 – 215 ตรม. ที่ดินเริ่มต้น 23 ตรว.และ DEMI 8 กว้าง 8 เมตร 3 ชั้นครึ่งพร้อม Panoramic Rooftop 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 300 ตรม. ที่ดินเริ่มต้น 31 ตรว. ดีไซน์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตสมดุล” ระหว่าง “ชีวิตเมือง”และ “ความสงบผ่อนคลาย” พร้อมฟังก์ชันการออกแบบผสานการใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์คนเมือง ให้ธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพักผ่อน
ด้วยแนวคิดการออกแบบที่นำ Ventilation Design หลักการดีไซน์บ้านเย็น ถ่ายเทอากาศเพื่อทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านดีขึ้นตามวิธีธรรมชาติ และฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยกลุ่ม Urban Lifestyle ที่หลงใหลชีวิตเมือง โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน DUPLEX MASTER BEDROOM เพดานสูงกว่า 5.65 เมตรพร้อมส่วนอเนกประสงค์ ชั้นลอยภายในห้องนอน ในแบบบ้าน DEMI 6 ซึ่งเหมือนยกรูปแบบ Duplex Condominium มาไว้ในทาวน์โฮม DOUBLE VOLUME LIVING เพดานสูงกว่า 5 เมตร พร้อมกระจกบานสูงในส่วนรับแขกของแบบบ้าน DEMI 8 สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวใหญ่ PENTHOUSE MASTER BEDROOM ห้องนอนใหญ่เต็ม Floor ในแบบบ้าน DEMI 8 พร้อม WALK-IN CLOSET และ ห้องน้ำที่รองรับอ่างล้างหน้า HIS-HER ,BATHTUB และ AUTOMATIC TOILET PANORAMIC ROOFTOP พื้นที่ชั้นบนสุดภายในบ้าน DEMI 8 ซึ่งเป็น HIGHLIGHT ในการชมวิวเมือง และสามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ พร้อมติดตั้ง LIFT ภายในบ้าน DEMI 8 ทุกหลัง จอดรถสูงสุด 3 คัน และสายไฟลงดิน

นายอาณัติกล่าวว่า เดมี สาธุ 49 นับว่าตั้งอยู่บนที่ดิน Rare Item การหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบทำได้ยาก เนื่องจากอยู่ในทำเลใกล้เมืองรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และยังเป็นทำเลที่ราคาที่ดินมีอัตราการเติบโตสูง จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ฉบับล่าสุดราคาประเมินที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ คือ ถนนสีลม อยู่ที่ 700,000 – 1,000,000 บาท/ตารางวา อัตราเติบโตเฉลี่ย ในช่วง 4 ปี อยู่ที่ 22% และราคาประเมินที่ดินทำเลถนนสาทร อยู่ที่ 600,000 บาท/ตารางวา อัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 4 ปี อยู่ที่ 26% ขณะที่ราคาที่ดินในทำเล สาธุฯ – พระราม 3 นั้นมีอัตราการเติบโตพุ่งสูงกว่าราคาที่ดินในโซน CBD โดยอยู่ระหว่าง 37 – 57% ในช่วง 4 ปี และ ราคาที่ดินทำเลถนน สาธุประดิษฐ์ ล่าสุด อยู่ที่ 250,000 บาท ต่อตารางวาเพิ่มขึ้นถึง 57% ในรอบ 4 ปี และเพิ่มขึ้นถึง 284% ในเวลา 12 ปี นอกจากนี้ DEMI SATHU49 ยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบในการอยู่อาศัย ทั้งเพื่อลดความร้อนภายในบ้าน ใช้ชีวิตได้อย่างสบายประกอบกับความปลอดภัยในการอยู่อาศัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อาทิ กระจก Euro Grey ป้องกันความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน ถนอมสายตาและช่วยป้องกันการมองเห็นจากภายนอกเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย DIGITAL DOORLOCK ป้องกันการโจรกรรม รวมถึงระบบล็อกอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมยและระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัย ผ่าน Mobile พร้อม Sky Light ช่องแสงธรรมชาติชั้นบนสุด บริเวณบันได ประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวัน และ EV Charger ติดตั้งในบ้านทุกหลังรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต

Advertisement

“เรา เชื่อมั่นว่า “เดมี” จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ตรงใจกลุ่มลูกค้า ที่ประสบความสำเร็จ จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ แสนสิริ จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 37 ปี ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับราคา ตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯลักซ์ชัวรี่และแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน และสร้างยอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ได้ 24,000 ล้านบาทและยอดโอนโครงการแนวราบ 22,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอาณัติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image