‘ไทวัสดุ’ ประกาศตรึงราคาสินค้าอีก 90 วัน พร้อมปรับแผนใช้รถอีวีสู้น้ำมันแพง (มีคลิป)

‘ไทวัสดุ’ ประกาศตรึงราคาสินค้าอีก 90 วัน เว้นเหล็ก ปูน พร้อมปรับแผนใช้รถอีวีสู้น้ำมันแพง แนะรัฐขึ้นค่าแรงอย่างสมเหตุผล

วันที่ 27 เมษายน นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ศูนย์วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ภายใต้แบรนด์ไทวัสดุ บีเอ็นบีโฮม ออโต้วัน และ โก! ว้าว ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจต่อสภาวะเศรษฐกิจที่จะขยายตัว 2.7% ของจีดีพี ทำให้ปี 2565 เป็นปีที่บริษัทกลับมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น จากปีก่อน 2,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท เพื่อรีโนเวตสาขาเดิม ซื้อที่ดินเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯจากปัจจุบัน 33 สาขา เป็น 58 สาขา ต่างจังหวัดจาก 62 สาขา เป็น 125 สาขา รวมทั้งพัฒนาระบบรุกช่องทางขายผ่านออนไลน์เพิ่ม 150% ขยายพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม 120% ทำให้รายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 13%

หนุนรัฐเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจ

“สนับสนุนการเปิดประเทศอย่างเต็มที่ เพราะช่วยได้มหาศาล ทำให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยไม่ว่าร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน พึ่งพานักท่องเที่ยวมาก ถ้าเปิดประเทศมั่นใจว่าธุรกิจขยายตัวได้แน่นอนในปีนี้ 2.7% และอีก 1-2 เดือนนี้เราจะเริ่มเดินทางไปต่างประเทศเพื่อดูลู่ทางการลงทุนสาขาใหม่ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาและเวียดนาม หลังเกิดโควิด 2 ปีทำให้เราไม่ได้เดินทางไปไหนเลย” นายสุทธิสารกล่าว

Advertisement

แนะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสมเหตุสมผล

นายสุทธิสารกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอยากให้แก้ปัญหาธุรกิจด้านบริการ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลจะมุ่งเน้นไปที่ภาคผลิตมากกว่าภาคบริการ แม้จะสร้างรายได้ต่อประเทศไม่มากแต่เป็นรายได้ที่กระทบต่อประชากรของประเทศจำนวนมากกว่าภาคผลิตหลายเท่าตัว ฉะนั้น ต้องช่วยให้รายได้ของธุรกิจภาคบริการไม่ว่าท่องเที่ยว ร้านอาหารกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว

“ด้านการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 492 บาทนั้น สำหรับตนมองว่าทุกอย่างขึ้นก็ต้องขึ้น แต่จะขึ้นเท่าไหร่ต้องพิจารณาให้สมเหตุสมผล” นายสุทธิสารกล่าว

Advertisement

เปิดแผนสู้น้ำมันแพง-ตรึงราคาสินค้า90วัน

นายสุทธิสารกล่าวถึงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นว่า แผนการรับมือของบริษัทจากสงครามรัสเซียกับยูเครนที่กระทบราคาพลังงานและต้นทุนการขนส่งสูงขึ้นมาก โดยที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มสต๊อกและนำเข้าสินค้าไว้ล่วงหน้า และจะตรึงราคาสินค้าอีก 90 วัน ที่ไม่ใช่เหล็ก ปูนซิเมนต์ ไม้ซิเมนต์

นายสุทธิสารกล่าวว่า นอกจากนี้ เปลี่ยนรถบรรทุกใช้ขนส่งสินค้าจากใช้น้ำมันดีเซลเป็นใช้ระบบไฟฟ้า (อีวี)แทน โดยเริ่มวิ่งพฤษภาคมนี้ประมาณ 20% จากทั้งหมด 70 คัน และปีหน้าจะซื้อรถบรรทุกอีวีเป็น 100 คันเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน และติดตั้งระบบโซลาร์รูฟทุกสาขาช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 50% ต่อสาขา

“ช่วงที่ราคาวัสดุปรับขึ้น ในทางกลับกันมันช่วยทำให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างขายดีขึ้น เพราะคนกลัวสินค้าจะแพงขึ้นอีก จึงซื้อเก็บเป็นสต๊อก และเร่งการก่อสร้าง ตอนนี้ราคาสินค้าเริ่มนิ่ง แต่ไม่รู้ว่าหากสงครามยังยืดเยื้อจะกระทบอีกมากน้อยแค่ไหน ถ้าแย่ลงไปอีก ราคาจะปรับขึ้นอีก” นายสุทธิสารกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image