ถึงคิว อี85 แพงขึ้น 3 บาทต่อลิตร กบน.เคาะลดอุดหนุน เก็บเงินดีเซลพรีเมียมเข้ากองทุนน้ำมันฯ “กุลิศ” ย้ำดีเซล 1 พ.ค.ขาย 32 บาทต่อลิตร เพดานไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2565 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร หลังจากนั้น กบน. จะพิจารณาปรับราคาเป็นขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน รวมถึงเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในส่วนที่เกี่ยวกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยในปัจจุบันหากไม่มีการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อลิตร และจากการอุดหนุนเพียงครึ่งเดียวตามมติคณะรัฐมนตรี จะทำให้เพดานการปรับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อลิตร ซึ่งหากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป
ขณะเดียวกัน ในส่วนของน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมก็จะทยอยปรับลดการชดเชยลงเช่นกัน โดยจะปรับลดการชดเชยลงสัปดาห์ละ 2 บาท และมีเป้าหมายจะจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลพรีเมียมลิตรละ 1 บาท
นอกจากนี้ กบน.ยังได้พิจารณาการปรับลดการชดเชยในกลุ่มน้ำมันเบนซิน E85 โดยจะปรับลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลงสัปดาห์ละ 1 บาท จากในปัจจุบันที่อุดหนุนอยู่ที่ 3.53 บาทต่อลิตร โดยมีเป้าหมายให้มีการอุดหนุนที่ 0.53 บาทต่อลิตร ปัจจุบันราคาขายปลีก 31.04 บาทต่อลิตร (ราคาขายปลีกในกรุงเทพฯ)
ทั้งนี้ การดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผ่านมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยในการแก้ไขวิกฤตผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจึงเป็นกลไกและเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศในช่วงภาวะวิกฤตไม่ให้สูงเกินไปจนเกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมุ่งเน้นการอุดหนุนและชดเชยในระยะสั้นชั่วคราวเพื่อให้เกิดระเบียบวินัยทางการเงินการคลังเป็นสำคัญ
ปัจจุบัน ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 เมษายน 2565 ติดลบ 56,278 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 24,302 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 31,976 ล้านบาท