ปิดคดี ‘กงสีตระกูลโตทับเที่ยง’ ‘สุธรรม’ ส่งเทียบเชิญ ‘สุรินทร์’ หารือแบ่งที่ดิน-หุ้นกงสี

ปิดคดี ‘กงสีตระกูลโตทับเที่ยง’ ‘สุธรรม’ ส่งเทียบเชิญ ‘สุรินทร์’ หารือแบ่งที่ดิน-หุ้นกงสี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 เมษายน  ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร เขตสาทร กทม. นายสุธรรม โตทับเที่ยง ในฐานะโจทก์ที่ 1 และผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ที่ 2-9 พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ในฐานะทนายความทั้ง 9 คน ได้เปิดการแถลงข่าว กรณีกงสีหรือธุรกิจครอบครัวของตระกูลโตทับเที่ยง ภายหลังศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ยืนตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้ นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง (จําเลยที่ 1 และพวกรวม 6 ราย) โอนที่ดินให้แก่พี่น้องในตระกูลโตทับเที่ยงทั้ง 10 คน คนละ 1 ส่วน หลังจากยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี นับตั้งแต่ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งธนบุรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 59 และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 61 โดยมี นางชุติมา โตทับเที่ยง น.ส.จุรี โตทับเที่ยง นายสลิล โตทับเที่ยง น.ส.สุนีย์ โตทับเที่ยง และ น.ส.ศิริพร โตทับเที่ยง ร่วมในการแถลงข่าว

ต่อมา ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ประธานคณะกรรมการบริษัท สำนักกฎหมาย ดร.สมศักดิ์ โตรักษา จำกัด ได้เผยแพร่เอกสาร “สรุปคดีกงสีหรือธุรกิจครอบครัว ‘ตระกูลโตทับเที่ยง’ ” ระบุว่า

ด้วยคดีศาลแพ่งธนบุรี คดีหมายเลขดำที่ พ.2264/2559 คดีหมายเลขแดงที่ พ.455/2561 ระหว่าง นายสุธรรม โตทับเที่ยง ที่ 1 นางสาวจุรี โตทับเที่ยงที่ 2 นายจุฬา โตทับเที่ยงที่ 3 นางจุรัตน์ โตทับเที่ยง ที่ 4 นายสลิล โตทับเที่ยง ที่ 5 นางสาวสุนีย์ โตทับเที่ยง ที่ 6 นางสาวศิริพร โตทับเที่ยง ที่ 7 นายเสริมสันต์ สินสุข ที่ 8 นายไกรลาภ โตทับเที่ยง ที่ 9 โจทก์ กับ นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ที่ 1 นางอุทัยวรรณ โตทับเที่ยง ที่ 2 นางสาวขิมพริ้ง โตทับเที่ยง ที่ 3 นายไกรสิน โตทับเที่ยง ที่ 4 นางสาวกรพินธุ์ โตทับเที่ยง ที่ 5 นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง ที่ 6 จำเลย เรื่องกรรมสิทธิ์รวม เรียกทรัพย์คืน ขอแบ่งทรัพย์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งหกโอนหุ้นบริษัทกงสีจำนวน 21 บริษัทให้กับโจทก์ทั้ง 9 คนละ 1 ใน 10 ส่วน รวมไปถึงให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 ถึง จำเลยที่ 6 โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับโจทก์ทั้ง 9 คนละ 1 ใน 10 ส่วน

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งหกโอนหุ้นคนละ 1 ส่วนใน 10 ส่วน ของหุ้นในแต่ละบริษัทจำนวน 19 บริษัท และให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 6 โอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 9 และจำเลยที่ 1 คนละ 1 ส่วนใน 10 ส่วน และหากไม่สามารถโอนที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างคืนโจทก์ไม่ว่ากรณีใดให้จำเลยผู้ถือหุ้นชดใช้ราคาหุ้นและใช้ราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินแทน จำนวนที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และราคาหุ้นให้เป็นไปตามบัญชีหุ้นและบัญชีที่ดิน หากไม่สามารถแบ่งที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้ ให้นำออกขายทอดตลาดนำเงินที่ได้แบ่งให้โจทก์ทั้งเก้า

Advertisement

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาได้มีคำตัดสินให้จำเลยทั้งหกโอนหุ้นในบริษัททั้ง 19 บริษัทให้แก่โจทก์ทั้ง 9 และจำเลยที่ 1 คนละ 1 ใน 10 ส่วนเท่าๆ กัน เท่านั้น ไม่มีการชำระเงินแทนหุ้น อีกทั้งศาลอุทธรณ์เห็นว่า ถึงแม้ที่ดินดังกล่าวจะนำเงินของบริษัทกงสีมาซื้อ แต่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 ถึง จำเลยที่ 6 ใส่ชื่อแทนบริษัทกงสี แต่บริษัทกงสีเจ้าของเงินไม่ได้ร่วมฟ้องมาด้วย จึงให้ยกคำขอที่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่โจทก์ทั้ง 9 และจำเลยที่ 1 มาแบ่งกันคนละ 1 ใน 10 ส่วน

ส่วนศาลฎีกาพิพากษาในส่วนของหุ้นในบริษัททั้ง 19 บริษัท โดยให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และในส่วนของที่ดินให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยศาลฎีกาได้พิพากษายืน

Advertisement

โดยการดำเนินการต่อภายหลังมีคำพิพากษาของศาลฎีกาขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งจดหมายเพื่อให้จำเลยพร้อมกับพวกเข้ามาร่วมประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางในการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฎีกาส่วนในเรื่องของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้จำเลยพร้อมกับพวกเข้ามาร่วมพูดคุยเจรจากัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ศาลแพ่งตัดสิน กงสี ‘โตทับเที่ยง’ ให้แบ่งหุ้น 19 บริษัท ที่ดิน 30 แปลง อาคาร ให้พี่น้อง 9 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image