‘ศักดิ์สยาม’ ตรวจความพร้อมสุวรรณภูมิ คาดหลังเปิด ปท. 1 พ.ค.นี้ ผู้โดยสารต่างชาติเพิ่ม 37.61%
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมการดำเนินการตามนโยบายเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่อนปรนปรับมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจความพร้อมการดำเนินการของท่าอากาศยานในการรองรับผู้โดยสารตามที่ ศบค. ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวันนี้ได้ตรวจความพร้อมการดำเนินงาน ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจุดตรวจหนังสือเดินทาง และจุดตรวจศุลกากร
“คาดว่าภายหลังการปรับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะส่งผลให้เดือนพฤษภาคมนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ย 15,954 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน ที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 11,594 คน หรือเพิ่มขึ้น 37.61% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 180 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน ที่มีจำนวนเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 140 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 28.57%” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักในการให้บริการผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ มีขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการแต่ละขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีนแต่มีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถเข้าประเทศได้ตามกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศตามขั้นตอนปกติ และผู้โดยสารที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ RT-PCR เมื่อลงจากอากาศยานเรียบร้อยแล้วต้องเข้าสู่ขั้นตอนการเข้าประเทศตามระบบ Seal Route ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกำหนดให้ผ่านพิธีการศุลกากรที่ช่องทางออก C (Exit C) เท่านั้น เพื่อมาพบกับตัวแทนโรงแรมกักตัวทางเลือก (เอคิว) ที่บริเวณประตูทางออกหมายเลข 10 และขึ้นรถโดยสารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวต่อไป
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า นอกจากนี้ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและกำกับดูแลการดำเนินงานตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด ซึ่งการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางเข้าประเทศครั้งนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีข้อสั่งการ อาทิ สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประสานสายการบินให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ให้ประสานงานสายการบินเพื่อประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทยบนสายการบินเพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง
นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า อีกทั้งได้มอบให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการปฏิบัติของผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ และมอบให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการผู้โดยสารในกรณีสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยังได้ประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับท่าอากาศยานภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีความพร้อมรองรับการเปิดประเทศทุกด้าน ทั้งกระบวนการคัดกรองและการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกมีการดำเนินการที่เป็นระบบ รวมทั้งมีความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร อาคารจอดรถ และระบบการให้บริการขนส่งสาธารณะ