เมื่อวันที่ 28 เมษายน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าว “ครบรอบ 60 ปี โตโยต้า…ร่วมขับเคลื่อนอนาคต” โดยมี มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ มร.ฮาว ก๊วก เทียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโตโยต้าประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของโตโยต้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ เป็นผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการตอบสนองความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ณ ตึก TOYOTA ALIVE บางนา
ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา โตโยต้าดำเนินธุรกิจมีส่วนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มีโรงงานประกอบรถยนต์หลักทั้งสิ้น 3 แห่ง มีกำลังการผลิตมากถึง 770,000 คันต่อปี ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศสะสมกว่า 7 ล้านคัน ยกระดับสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์หลักในระดับภูมิภาคเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกกว่า 5 ล้านคัน รวมเป็นยอดผลิตสะสมทั้งสิ้นกว่า 11 ล้านคัน
มร.ฮาว ก๊วก เทียน กล่าวว่า การที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยเจริญเติบโตนั้นส่งผลให้ผลิตภัณฑ์และบริการของโตโยต้าขายดีและได้รับการยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก ส่งผลให้โตโยต้าเติบโตอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ทศวรรษ จวบจนสามารถจารึกประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเราในวันนี้ นี่คือบทพิสูจน์ว่าโตโยต้ามีสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งและแนบแน่นกับประเทศไทย และด้วยความท้าทายใหม่ที่เรากำลังเผชิญด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมแผนการนำเสนอยานยนต์จากโตโยต้าที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนต่อจากนี้ มั่นใจว่าบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จะยังคงเดินหน้าเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญ ในประเทศที่สวยงามแห่งนี้ในอีก 60 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวว่า ในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปีนี้ ถือเป็นการเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโตโยต้า ในการเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนที่ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบความสุขให้กับคนไทยและเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทย ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่กับการเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” ภายใต้พันธกิจใหม่ของเรา ได้แก่ 1.ส่งมอบการขับเคลื่อนที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และพร้อมเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย 2.นำเสนอประสบการณ์การขับเคลื่อนยุคใหม่แบบไร้รอยต่อ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้บริการด้านการขับเคลื่อนในทุกรูปแบบ 3.เสริมสร้างสมดุลแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการดำเนินงานทุกกระบวนการตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ 4.ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คน รวมถึงนำพาสังคมให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 5.ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันขององค์กรในยุคหน้า ตลอดจนยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุไปสู่เป้าหมายของพันธกิจใหม่ดังกล่าว หนึ่งในแผนงานที่โตโยต้าให้ความสำคัญอย่างมาก คือ การบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050 ถือเป็นพันธกิจหลักของกลุ่มโตโยต้าทั่วโลก และสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกลยุทธ์ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ โดยเริ่มแนะนำรถยนต์ bZ4X รถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้ารุ่นแรกของโตโยต้าเข้าสู่ตลาด และยังมีแผนจะแนะนำยานยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไป รวมถึงการเตรียมความพร้อมกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ประสานความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ศึกษาโครงการต่างๆ ร่วมกันทั้งในด้านการสร้างบุคลากรที่มีทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ เตรียมพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า และผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบยานยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต
นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้าพร้อมขับเคลื่อนสังคมไทย สู่ “ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ “SDGs – Sustainable Development Goal”
ด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน เตรียมพร้อมหลากหลายแนวทาง (Multi Pathway) ผ่านการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ มุ่งมั่นลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการจัดการกระบวนการผลิตตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Life Cycle Assessment) เริ่มตั้งแต่ การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงมลภาวะ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ เช่น การใช้พลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ หรือไฟฟ้า, การนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบส่งกำลังรูปแบบต่างๆ ตอบสนองความต้องการใช้งานทุกรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า, การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
การยกระดับสายการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย โรงงานที่ปล่อย CO2 เป็นศูนย์ นำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต ลดการใช้พลังงานในสายการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพภายใต้ระบบการผลิตแบบโตโยต้า, การร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้แทนจำหน่าย จัดการระบบขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การร่วมลดการใช้พลังงานในสำนักงานมีข้อกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคู่ค้าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ, การขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเตรียมความพร้อมในการกำจัดผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งานอย่างถูกวิธี (3R : Rebuilt, Reuse, Recycle), การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นกลางทางคาร์บอนแห่งแรก
นอกโรงงาน “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมการให้
ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม, โตโยต้ามีแผนจะเริ่มโครงการ “ชุมชนสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” เพื่อยกระดับจากการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ไปสู่การสร้างชุมชนต้นแบบสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนในชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
มีการขยายผลของการดำเนินการไปสู่อีกระดับ โดยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ร่วมกับเมืองพัทยา โตโยต้า
นำรถยนต์พลังงานสะอาดทุกรูปแบบ ทดลองให้บริการเพื่อตอบสนองการเดินทางที่มีความหลากหลายในพัทยา และร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การใช้พลังงานสะอาด หรือ ระบบเชื่อมต่อการเดินทางที่ทันสมัย เข้ามาใช้ในโครงการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modernized and Decarbonized Transportation”
ด้านเศรษฐกิจ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดการธุรกิจตามแบบฉบับวิถีโตโยต้าให้แก่ธุรกิจชุมชนต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ และเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ผ่านการ
จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ของโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ให้ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ด้านสังคม โตโยต้ายังคงสานต่อการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านต่างๆ เช่น การยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนของโครงการ
“โตโยต้า ถนนสีขาว” เพื่อสร้างจิตสำนึกของสังคมคนขับรถดี เพิ่มทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัย นำระบบการจราจรอัจฉริยะเข้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในระบบการจราจร มีแผนลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ปรับปรุงจุดเสี่ยง 60 จุด ทั่วประเทศ, การเพิ่มเงินทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อยกระดับการดำเนินงานของ “มูลนิธิโตโยต้าฯ” ให้สามารถขยายผลกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและเด็กผู้ยากไร้ได้อย่างครอบคลุม ทั้งในด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ และอื่นๆ
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เราจะเริ่มอีกพันธกิจใหม่ของเรา นั่นคือการสร้างประสบการณ์การขับเคลื่อนที่มีชีวิตชีวาอย่างไร้รอยต่อ เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตไปด้วยกัน หรือ Move Your World จะมุ่งเน้นการให้บริการแห่งการขับเคลื่อน ร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างแนบแน่น โตโยต้ามุ่งมั่นมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ มาตรฐานสูง เพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าครบทุกเซ็กเมนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้า สามารถรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้าทุกรูปแบบ มีผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ มีบริการระบบการเชื่อมต่อครอบคลุมดูแลตลอดทุกการเดินทางของลูกค้า ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที-คอนเน็กต์ ตลอดจนเทคโนโลยี เทเลเมติกส์ และสมาร์ทโฟน สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าไปตลอดกาล ทั้งประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) และประสบการณ์การใช้รูปแบบใหม่ (New Usage Experience) ในรูปแบบของบริการต่างๆ สำหรับลูกค้าโตโยต้าโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ได้แนะนำโครงการใหม่ในรูปแบบของคอมเพล็กซ์ นั่นคือ โครงการ โตโยต้า อะไลฟ์ (TOYOTA ALIVE) มีแนวคิดเพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นนำเสนอเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ของโตโยต้าครบวงจร เป็นแหล่งวิจัยข้อมูลจากลูกค้า เป็นสถานที่พบปะผู้คนที่มีแนวคิดและไลฟ์สไตล์
หลากหลาย เป็นไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ ลูกค้าทั่วไป พันธมิตร นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกวัน
และในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปี โตโยต้าในครั้งนี้ เรามีแผนจะแนะนำรถยนต์ “รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 60 ปี” จำนวนจำกัด 6,000 คัน รวมถึงเตรียมกิจกรรมและแคมเปญพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อเป็นการร่วมฉลองกับลูกค้าโตโยต้าทุกคนในโอกาสพิเศษนี้อีกด้วย
นายพล
