เอกชนชี้ยกเลิกเทสต์ แอนด์ โก-ตรวจ RT-PCR ดันต่างชาติเที่ยวไทยพุ่ง 2-3 หมื่นคนต่อวัน

เอกชนชี้ยกเลิกเทสต์ แอนด์ โก-ตรวจ RT-PCR ดันต่างชาติเที่ยวไทยพุ่ง 2-3 หมื่นคนต่อวัน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลปลดล็อกการเดินทางเข้าประเทศ ผ่านการยกเลิกเทสต์ แอนด์ โก และยกเลิกการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เบื้องต้นเห็นบรรยากาศทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยต้องเพิ่มขึ้นดีกว่าเก่าแน่นอน แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะจะให้กลับไปดีแบบปกติ หรือดีเหมือนช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2562 อันนี้ก็คงไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากภาวะในปัจจุบันยังไม่กลับเข้าสู่ช่วงปกติ เพราะการระบาดโควิด-19 ยังคงอยู่ ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวมากนัก บวกกับปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ ในแง่สงครามระหว่างประเทศก็ยังคงอยู่ เราจึงต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ พยายามเตรียมความพร้อม และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 พบตัวเลขการเดินทางในสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ที่ประมาณ 17,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการเดินทางประมาณ 12,000 คนต่อวัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเลข 17,000 คนต่อวันนั้น แบ่งเป็นคนไทยจำนวนเท่าใด และนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนเท่าใด เพราะก็มีนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศและกลับมาด้วย

“แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากประเทศไทยคลายล็อกแล้ว จากนี้คงต้องขอติดตามก่อนประมาณ 1 เดือน เนื่องจากเมื่อมีการผ่อนคลายเกณฑ์การเข้าประเทศแล้ว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าใด อาจต้องประเมินปัจจัยแวดล้อมร่วมด้วย โดยในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 8,000-12,000 คนต่อวัน แต่ในเดือนพฤษภาคมนี้ อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-30,000 คนต่อวัน และทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้” นายศิษฎิวัชร กล่าว

นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า พอเห็นหลายประเทศเปิดประเทศท่องเที่ยวแล้ว ความกังวลในด้านที่จะเห็นคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนมีศักยภาพในการใช้จ่าย หรือกลุ่มคนระดับกลางถึงบนขึ้นไปนั้น ออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจภายในได้รับผลกระทบหรือไม่นั้น เบื้องต้นต้องบอกว่า ไม่ได้มีความกังวลมากนัก เนื่องจากคนที่เที่ยวในประเทศก็จะยังเดินทางเที่ยวในประเทศต่อไป ส่วนคนที่มีความสามารถในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าคนที่จะไป อย่างไรก็ต้องไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เดินทางเที่ยวด้วยและทำธุรกิจด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ได้มีมากอย่างที่คิดกัน โดยการระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกลุ่มคนทำธุรกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บกันแบบสาหัส ทำให้กลุ่มคนระดับกลางถึงล่างลงมา ถูกกระทบหนักมาก แต่คนระดับกลางถึงบนขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบเลย เนื่องจากกลุ่มคนทำมาหากินแบบหาเช้ากินค่ำในประเทศไทยมีจำนวนมาก และส่วนใหญ่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็เกิดกับคนกลุ่มเหล่านี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image