เอ็กซิม แบงก์ เผยผลงานไตรมาส 1/2565 สินเชื่อปล่อยใหม่ 1.4 หมื่นล้านบาท พุ่ง 74%

เอ็กซิม แบงก์ เผยผลงานไตรมาส 1/2565 สินเชื่อปล่อยใหม่ 1.4 หมื่นล้านบาท พุ่ง 74%

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2565 เอ็กซิม แบงก์ มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 14,973 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 74.37% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นวงเงินของลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จำนวน 4,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้มีการปล่อยวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับลูกค้ารายใหม่ถึง 11,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 361.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความสำเร็จของธนาคารในการเข้าถึงธุรกิจรายใหม่ ทำให้มีสินเชื่อคงค้าง 150,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,209 ล้านบาท หรือ 12.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 38,030 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 112,591 ล้านบาท

นายรักษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เอ็กซิม แบงก์ ยังมุ่งมั่นเป็นผู้นำพากิจการไทยไปปักธงในตลาด กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม (CLMV) และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตสูง โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 เอ็กซิม แบงก์ มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 65,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 5,543 ล้านบาท หรือ 9.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนประเทศล่าสุดที่ธนาคารได้เปิดทำการสำนักงานผู้แทน ได้แก่ เวียดนาม มีสินเชื่อคงค้าง จำนวน 13,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย เอ็กซิม แบงก์ มีกำหนดจัดพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนในนครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้

นายรักษ์ กล่าวว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นของเศรษฐกิจโลก เอ็กซิม แบงก์ เร่งเสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยด้วยการเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 เอ็กซิม แบงก์ มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 53,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 799 ล้านบาท หรือ 1.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

Advertisement

นายรักษ์ กล่าวว่าขณะเดียวกัน เอ็กซิม แบงก์ ให้ความสำคัญกับการรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคง โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 4,307 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 เพียง 2.86% แต่มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 11,880 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 275.81% ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เอ็กซิม แบงก์ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 411 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 346.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายรักษ์ กล่าวว่ารวมถึง การมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านสินเชื่อและบริการประกัน ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 เอ็กซิม แบงก์ มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 5,022 ราย เพิ่มขึ้นถึง 16.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้า เอสเอ็มอี 82.78% ซึ่ง เอ็กซิม แบงก์ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แม้แต่ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้น อาทิ สินเชื่อ เอ็กซิม เพื่อซัพพลายเออร์ส่งออก และสินเชื่อ เอ็กซิม โลจิสติกส์ ที่ดำเนินการร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อลดภาระต้นทุนให้กับผู้ส่งออกและนำเข้า นอกจากนี้ ได้เผยแพร่ข้อมูลและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการผ่านการให้คำปรึกษาและจัดอบรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 เอ็กซิม แบงก์ ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการกว่า 14,200 ราย ด้วยวงเงินรวมประมาณ 76,700 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image