“บีทีเอส กรุ๊ปฯ” ขยายแผนระดมทุนเป็น 1.1 หมื่นล. หลังนักลงทุนแห่จองซื้อหุ้นกู้ กว่า 1.67 เท่า 

‘บีทีเอส กรุ๊ปฯ’ ขยายแผนระดมทุนเป็น 1.1 หมื่นล. หลังนักลงทุนแห่จองซื้อหุ้นกู้ กว่า 1.67 เท่า

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด มูลค่าเสนอขายรวม 11,000 ล้านบาท แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 29 เมษายน 3 พฤษภาคม และ 5 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งการเสนอขายประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้ลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนเป็นจำนวนมากกว่า 1.67 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่บริษัทตั้งเป้าหมายในการออกหุ้นกู้ที่ 8,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจออกหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมอีกจำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565

ทั้งนี้ หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่เสนอขายทั้ง 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี ครบกำหนด ไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.79% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 700 ล้านบาท หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.65% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 2,800 ล้านบาท หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2572 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.05% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 3,800 ล้านบาท และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2575 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 3,700 ล้านบาท และกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยมี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

โดยตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond: SLB) เป็นตราสารหนี้ที่มีข้อตกลงหรือเงื่อนไขให้ผู้ออกหุ้นกู้มีการปรับอัตราดอกเบี้ย และ/หรือ การดำเนินการตามภาระผูกพันใดๆ โดยข้อตกลงหรือเงื่อนไขในการดำเนินการตามภาระผูกพันดังกล่าวจะอ้างอิงกับผลความสำเร็จหรือผลการดำเนินการตามตัวชี้วัด และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Key Performance Indicators) ของผู้ออกตราสารหนี้ในอนาคตที่จะก่อให้เกิดผลกระทบด้านดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

สำหรับตัวชี้วัด และเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ BTSG ที่ใช้ในการอ้างอิงสำหรับการออก และเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ได้แก่ 1) การตั้งเป้าหมายเรื่องปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อระยะทางของตู้โดยสาร (Total electricity consumption per car-km) สำหรับการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และ 2) การตั้งเป้าหมายสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Consumption) สำหรับการดำเนินงานของระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด รวมถึงการเดินรถของระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว การใช้ไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้า อาคาร และศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งเป้าหมายทั้งสองดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่ส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยการออกหุ้นกู้และเสนอขายในครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล
Sustainability-Linked Bond Principles ที่กำหนดโดยสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association: ICMA) เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2563 และยังได้รับความเห็นรับรองเกี่ยวกับการดำเนินตามมาตรฐานจากผู้ประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐาน DNV Business Assurance Australia Pty Ltd.

Advertisement

“การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ไว้วางใจและให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ของ BTSG รวมทั้งขอบคุณ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้เดิม ไม่ได้เป็นการก่อหนี้เพิ่มแต่อย่างใด” นายสุรยุทธกล่าว

“การออกหุ้นกู้ Sustainability-Linked Bonds ของบริษัทในครั้งนี้เป็นไปตาม Long-Term Climate Strategy ของ BTSG นั่นคือ การเป็นบริษัทที่เป็น Carbon Neutral หรือเป็นบริษัทที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ และกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่ง Renewable Energy อย่างน้อย 10% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทได้รับการยอมรับในด้านการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล อาทิ ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (DJSI) เป็นระยะเวลา 4 ปี ติดต่อกัน (2561-2564) และได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของโลก 2 ปีซ้อน ในกลุ่มการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และล่าสุดเป็นบริษัทในกลุ่มขนส่งแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับการรับรองว่าเป็นบริษัทที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์หรือ carbon neutral transportation company (โดยได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย)” นายสุรยุทธกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image