ธุรกิจรถเช่ากระอัก หลังน้ำมันแพงทำลูกค้าเทจองเที่ยว โอดโควิด 2 ปีไร้เยียวยาจากรัฐ

ธุรกิจรถเช่ากระอัก หลังน้ำมันแพงทำลูกค้าเทจองเที่ยว โอดโควิด 2 ปีไร้เยียวยาจากรัฐ

นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขนส่งและรถเช่าในปัจจุบันเงียบเหงาลงไปมาก หลังจากการระบาดโควิด-19 ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตัวเลขการติดเชื้อโควิดรายวันเริ่มทยอยลดลง และรัฐบาลกลับมาเปิดประเทศใหม่อีกครั้ง ผ่านการปรับลดเงื่อนไขการเข้าประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้าง เริ่มมีการติดต่อเช่ารถล่วงหน้าเข้ามา รวมถึงโปรแกรมทัวร์จากต่างประเทศ ก็เริ่มเห็นการประสานเข้ามาบ้าง แต่เมื่อมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ก็ทำให้อัตราค่าเช่ารถประเภทต่างๆ ต้องปรับขึ้นตาม จึงเห็นการชะลอตัวในการเช่ารถและการเดินทางในส่วนนี้ไปมากพอสมควร โดยเบื้องต้นประเมินว่า มีการเลื่อนและยกเลิกการจองเช่ารถล่วงหน้าไปกว่า 50% ของกลุ่มลูกค้าที่ได้ติดต่อประสานข้อมูลไว้แล้ว

นายวสุเชษฐ์ กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าและขนส่งในขณะนี้รายได้หายไปกว่า 80% เทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 โดยทิศทางในตอนแรก เดิมเราคาดว่า พอมีสัญญาณของการเปิดประเทศ การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ก็มีแนวโน้มปรับดีขึ้น แต่เมื่อเจอสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง และสินค้าปรับราคาขึ้นค่อนข้างมาก ก็ทำให้ทุกอย่างชะลอตัวลงไปอีก โดยหากเทียบช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด เมื่อปี 2562 ลูกค้าเริ่มฟื้นตัวกลับมาประมาณ 20% แต่พอเจอราคาน้ำมันแพง ก็ทำให้ลูกค้าหายไปอีกครั้ง ซึ่งเริ่มหายไปตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา เมื่อมีการปรับราคาน้ำมันขึ้นเป็น 32 บาท จากเดิม 29 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดต่อเข้ามาก็ขอหยุดแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ซึ่งการหยุดในรูปแบบนี้ก็ไม่สามารถประเมินได้ว่า หลังจากนี้ลูกค้าจะกลับมาช่วงใด เนื่องจากหากราคาน้ำมันปรับขึ้นแบบเป็นขั้นบันไดเหมือนที่รัฐบาลบอก อัตราค่าบริการของรถเช่าและขนส่งก็ต้องปรับขึ้นตาม โดยอัตราน้ำมันที่ 32 บาท ค่าบริการจะปรับขึ้น 5-10% หรือทุก 1 บาทจะขึ้น 5% อาทิ บริการรถบัส ค่าเช่าเดิมอยู่ที่ 10,000 บาท ในราคาน้ำมัน 29 บาท เมื่อน้ำมันขึ้นมาที่ 32 บาท ก็ต้องขึ้นค่าบริการที่ 1,000 บาท และหากน้ำมันขึ้นอีก ก็ต้องขึ้นตามต่อเนื่องกันไป

“พอน้ำมันปรับขึ้น ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบทุกส่วนเทียบเท่ากัน เพราะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก็ปรับขึ้นตามด้วย ทั้งอะไหล่รถยนต์ การซ่อมบำรุง ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วนคือ อยากทราบความชัดเจนของราคาน้ำมัน ว่าจะทรงตัวอยู่ประมาณเท่าใด เมื่อปรับขึ้นจะขึ้นเท่าใด กินระยะเวลานานมากน้อยเท่าใด เพราะธุรกิจการเช่ารถและขนส่งเป็นการติดต่อล่วงหน้า ทำให้ผู้เช่าจะต้องประเมินได้ว่า หากเดินทางในเดือนนี้ค่าเช่าจะอยู่ที่เท่าใด หากเลื่อนไปอีกจะอยู่เท่าใด และการจัดหากองทุนเพื่อใช้ในการซ่อมบำรุงรถเช่าที่จอดมา 2 ปีกว่าแล้ว หากจะกลับมาให้บริการใหม่ ก็ต้องใช้เงินในการซ่อมบำรุงสูง รวมถึงอัตราโควต้าน้ำมันพิเศษในการช่วยเหลือธุรกิจ อาทิ ปัจจุบันมีโควต้าให้แท็กซี่ ก็ควรพิจารณาให้เราด้วย เพราะการระบาดโควิด 2 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราค่อนข้างน้อยใจ เพราะขออะไรไปก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลเลย” นายวสุเชษฐ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image