หุ้นดิ่งลบ 28.82 จุด รับเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง-คริปโทผันผวน-ผลประกอบการบจ.ต่ำคาด

หุ้นดิ่งลบ 28.82 จุด รับเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งคริปโทผันผวนผลประกอบการบจ.ต่ำคาด

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,613.34 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,584.52 จุด ปรับลดลง 28.82 จุด หรือ 1.79% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,607.88 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,580.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 92,529.65 ล้านบาท

โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับระดับลดลงอย่างร้อนแรง โดยสาเหตุหลักๆ เป็นเพราะตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ความผันผวนของตลาดสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) ทำให้เงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม ออกไปพักในตลาดตราสารหนี้ของยุโรปและสหรัฐ รวมถึงหุ้นที่ปรับลดลงมากๆ เป็นเพราะผิดหวังผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ที่ออกมาไม่ได้ดีเหมือนที่คาดไว้ด้วย ซึ่งความจริงสภาพตลาดไม่ได้ดีมากนักอยู่แล้ว แต่เมื่อผลประกอบการออกมาแย่กว่าตลาดคาด ก็ถือเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีปรับลดลงมากขึ้นไปอีก โดยเม็ดเงินที่ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงหลักๆ ทั้งหุ้น คริปโทฯ และราคาน้ำมันที่ปรับลดลงด้วย หันไปพักฐานในตลาดตราสารหนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีล) ลดลง ซึ่งถือเป็นผลบวกกับราคาทองคำในภาพรวมและทองคำก็ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือเซฟเฮฟเว่นด้วย เนื่องจากสถานการณ์การลงทุนในตอนนี้ เราเห็นการปิดความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้อย่างชัดเจน

นายณัฐพล กล่าวว่า เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสูงสุดในปี 2565 ยังคงเป้าไว้ที่ 1,720 จุด เพราะในช่วงสิ้นปีแรกถูกกดันจากนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการปิดประเทศของจีน ซึ่งมองว่าครึ่งแรกของปี 2565 ตลาดจะซึบซับความกังวลของเฟดไปบ้างแล้ว บวกกับจีนน่าจะกลับมาเปิดประเทศได้ในครึ่งปีหลัง ส่วนสงครามรัสเซียและยูเครนไม่น่าจะรุนแรงขึ้น ทำให้ยังไม่มีการปรับเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2565 โดยกรอบดัชนีระยะสั้น แนวรับที่ระดับ 1,550 จุด น่าจะเป็นจุดที่แตะเบรกการปรับลดลงของดัชนีหุ้นได้

ทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) มองว่าจะเป็นการชะลอการไหลเข้ามามากกว่า ไม่ได้เป็นการไหลออกแบบรุนแรง เพราะปี 2565 ก็ถือเป็นปีแรกที่ไหลเข้ามาหลังจาก 3 ปีที่ผ่านมา เกิดการระบาดโควิด-19 และเห็นแรงขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพจะเป็นแรงซื้อสลับขายออกมากกว่านายณัฐพล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image