พิษเหรียญ Luna และ UST ร่วงหนัก ‘นิรันดร์’ กูรูสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศหยุดโพสต์ ห่วงผู้ติดตามขาดทุนสาหัส
นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวา แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล
วันที่ 14 พ.ค. นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวา แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อ Niran Pravithana ประกาศหยุดเขียนโพสต์เกี่ยวกับตลาดตลาดสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) เนื่องจากมีผู้ติดตามได้ไปลงทุนและกำลังขาดทุนอย่างหนักจาก จาก UST และ Luna ในเวลานี้ โดยระบุว่า
“คิดมานานว่าจะเขียนอะไรดี กับกรณี Luna/UST ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พยายามตกตะกอนความคิดตัวเองในระดับหนึ่ง จนออกมาเป็นโพสนี้..
-ผมคิดว่าหลังจากนี้ผมจะหยุดการเขียนโพส เกี่ยวกับ Crypto โดยสิ้นเชิงครับ
-สาเหตุหลักจากการที่ผมเห็นหลายคนที่ติดตามผม ได้ไปลงทุนกับ Crypto และเกิดการขาดทุนหนักจำนวนมาก
-ธรรมชาติการเขียนของผม จะไม่ได้พยายามเชียร์หรือกาวเหรียญใดเหรียญหนึ่ง สิ่งที่ผมพยายามทำมาเสมอ คือการบอกข้อมูลทั้งสองด้าน ในด้านที่ดีและด้านที่เป็นความเสี่ยง เราหวังว่า สิ่งที่เราบอกเล่าจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับนักลงทุนในการลงทุนได้บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงผมเน้นย้ำเรื่องการกระจายความเสี่ยงเสมอ ไม่ให้ทุกคน bet กับเหรียญใดเหรียญหนึ่งมากจนเกินความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-แต่ปัญหาสำคัญของนักลงทุนรายย่อยที่เป็นธรรมชาติของคนส่วนใหญ่คือ เขาจะรับสาร เฉพาะ “สารเชิงบวก” และ มองข้าม “สารเชิงลบ”
-เช่นกรณี Luna ที่เมื่อต้นปีก่อนผมมีโอกาสได้คุยกับคุณโยสันติ VI ผู้ล่วงลับที่ผมนับถือมาก เราวิเคราะห์ถึงจุดอ่อน จุดแข็ง และโอกาสของ Luna ในช่วงเวลาที่ Luna อยู่ที่ราคา $10-$20 เป็นเวลานาน จนได้ความเห็นที่ตรงกันว่า เป็นการลงทุนที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโต
-ทั้งผมและคุณโย ก็ได้ลงทุนใน Luna โดยการกระจายความเสี่ยงในระดับที่พวกเราคิดว่าน่าจะเหมาะสม และผมก็มีโอกาสสอนคอร์ส DeFi Economyst และพูดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้กับผู้ที่เข้าเรียนได้ฟัง
-ในช่วงพฤษภาปี 2021 ตลาด Crypto แตก ราคา Luna ร่วงลงไปที่ $5 คนจำนวนมากที่เรียนคอร์ส DeFi Economyst ของผม ได้ตัดสินใจลงทุน Luna และทำการได้ได้ 10-20 เด้ง ทำให้คนคิดว่าผมเป็นเทพ Crypto แห่กันมาฟังคำแนะนำของผมเต็มไปหมด
-เสียงขอบคุณดังมาก จนทำให้ผมดูเหมือนจะมีชื่อเสียงในฐานะนักวิเคราะห์เรื่อง Crypto ขึ้นมา
-แม้กระนั้นตลอดทางจากจุดเริ่มต้น จนถึงตอนนี้ผมก็พยายามบอกถึงความเสี่ยงและปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง impossible trinity เรื่องการฝืนธรรมชาติของกลไกของ Luna ในช่วงหลังๆ มาโดยตลอด
-ตอนปลายปี 2021 ผมมีโอกาสเตือนเรื่อง Luna ที่ผมพยายามย้ำในหลายรายการที่สัมภาษณ์ และหลายบทความ ว่า Luna ตอนนี้ ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปเยอะมาก หลาย protocol ค่อนข้างแป๊ก และเติบโตแบบ inorganic
-แต่ปัญหาคือ เสียง “คำเตือน” ของผมตอนนี้มันไม่ดังพอเสียแล้ว
-หลายคนจำนวนมากเห็นคนที่ทำกำไร Luna ได้เป็น 10-20 เด้ง เกิดความสนใจมาลงทุน แต่ลงทุน Luna ในช่วงที่ราคา $70-$100 เยอะพอสมควรในช่วงปลายปี 2021 โดยไม่ได้กระจายความเสี่ยงอย่างที่ควรจะทำ
-ในปลายปีผมย้ำเตือนเรื่องตลาด Crypto ปี 2022 มีความน่ากังวลเยอะมาก ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ QT และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก
-แต่ก็เช่นเดิมคือ เสียงของผมในครั้งนี้ไม่ดังเท่าช่วงกลางปีที่แล้ว
-แม้กระทั่งเรื่อง Option ผมพยายามบอกแนวทางการลงทุนที่มีการจัดการความเสี่ยงในช่วงภาวะตลาดขาลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ margin ที่เหมาะสม, การเลือก strike price ที่พร้อมจะ exercise รวมถึงความเสี่ยงอื่นๆ จำนวนมาก
-แต่มีเพื่อนหลายคนถูกยั่วยวนด้วยผลตอบแทน Option ในระดับ >100% แล้ว ทำให้พวกเขาตัดสินใจยกระดับ strike price รวมถึงเพิ่ม margin เพื่อหวัง moon shot และเมื่อตลาด Crypto พัง พวกเขาก็ต้องขาดทุนอย่างรุนแรงจากการลงทุน
-กล่าวโดยสรุปคือ แม้ผมจะพูดทั้งสองด้าน บอกทั้งแง่มุมใน “ด้านดี” และ “ด้านร้าย” เท่าที่ความรู้ผมจะเอื้ออำนวย แต่สุดท้ายแล้ว ธรรมชาติของนักลงทุน “เลือกที่จะได้ยิน เฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน” และมองข้ามคำเตือน หรือมุมมองในแง่ลบไป และเมื่อเกิดปัญหาทำให้คนกลุ่มนี้ต้องประสบปัญหาการขาดทุน บางคนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว
-มันเป็นเหมือนภาวะ Echo chamber แบบหนึ่ง ที่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติในสังคมมนุษย์ ที่เราจะรับฟังสิ่งที่ตรงกับความคิดของเรามากกว่า ซึ่งธรรมชาติข้อนี้แก้ไขได้ยากมาก
-หลายคนส่งข้อความเป็นห่วงผมมา ผมต้องขอบคุณมาก ในส่วนการลงทุนของผมนั้น ผมพยายามแบ่งจัดสรรพอร์ตโฟลิโอให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ผมยอมรับได้ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ เท่ากับที่เห็นคนจำนวนมากที่ต้องขาดทุนจาก UST และ Luna โดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
-ผมไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือ การหยุดให้ข้อมูล หรือเป้า หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Echo chamber หรือ “การเลือกรับฟัง เฉพาะสิ่งที่ผู้รับสารอยากได้ยิน” ผมไม่อยากให้ใครต้องมาขาดทุนจากการเสพบทความของผม มันทำให้ผมจิตตก กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับไปหลายวัน
-ขอบคุณที่ติดตามกันมาโดยตลอดนะครับ หลังจากนี้ผมคงจะคิดถึงทุกคน อาจจะไม่ได้ให้สัมภาษณ์ หรือ ออกสื่อบ่อยแบบเมื่อก่อนแล้ว คงจะเหลือเพียงการเขียนบทความเฉพาะในส่วนของเศรษฐศาสตร์ และขออนุญาตไม่เขียนบทความวิเคราะห์ Crypto ใดๆ อีก เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนบางคนจะต้องประสบภาวะขาดทุน
-ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนที่ต้องขาดทุนจาก Black Swan ครั้งนี้ ขอให้มีกำลังใจ ที่จะฟื้นกลับขึ้นมาได้อย่างเข้มแข็ง และผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ในที่สุดนะครับ
PS. ไม่ได้มีใครมาตำหนิ หรือ โจมตีผมนะครับ ทุกคนที่ผมคุยด้วยน่ารักมากๆ เข้าใจ และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แถมยังขอบคุณผมด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้น ก็ทำให้ผมรู้สึกแย่อยู่ดี
