| ผู้เขียน | วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : เงินเฟ้อพุ่ง=ศก.ไทยติดกับดัก
ผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งแรกของปี 2565 แต่ราคาพลังงานปรับขึ้นมาสูงมาก หากแปลงราคาพลังงานในรูปของน้ำมันดิบและก๊าซ พิจารณาจากตัวเลขนำเข้าเชื้อเพลิงไตรมาส 1/2565 ขยายตัวเป็นเงินบาทสูงกว่า 103.4% ถือเป็นระดับที่สูงสุดในประวัติการณ์ หากเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่โควิดระบาดรุนแรงนำเข้าเชื้อเพลิงหดตัว 20.08% ส่งผลให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นลิตรละ 9.85 บาท หรือคิดเป็น 31.6%
สาเหตุเกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เริ่มโจมตีวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มพรวดและผันผวนสูง ไล่ไปอยู่ระดับกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในวันนี้ ส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการทั่วโลก เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ในประเทศไทย เจอผลกระทบหนักตามไปด้วย เมื่อราคาน้ำมันและสินค้าขยับ ส่งผลเงินเฟ้อสูงตาม ล่าสุดเดือนเมษายน สูงระดับ 4.65% แม้ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่สูง 5.73% แต่ยังถือว่าตัวเลขพุ่งพรวด จากย้อนดูสถิติหลายปีที่ผ่านมา เงินเฟ้อทั่วไปของไทย เฉลี่ยสูงก็แค่ 0.7-1.0% เท่านั้น แต่ปี 2565 สูงตั้งแต่ต้นปี ทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อไทยปีนี้กรอบอยู่ที่ 4.5-5.0%
ดังนั้น เศรษฐกิจไทยที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว ก็มาเจอเงินเฟ้อสูง เงินในกระเป๋าซื้อของได้ลดลง เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ยากขึ้น ภาครัฐก็ต้องออกแรงเพิ่มขึ้น เห็นได้จากความพยายามดันการฟื้นตัว ตั้งแต่ปลดล็อกเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ลดขั้นตอนการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็หวังเงินนอกมาทดแทนปัญหาค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้น ที่ต้อง “ประหยัด” การใช้ชีวิตประจำวัน การจะพึ่งพาต่างชาติ อย่างไรก็ต้องใช้เวลา ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยที่ไม่อาจหนีพ้น
ความหวังของประชาชนตอนนี้ มุ่งไปที่ฝีมือการบริหารจัดการของรัฐบาล ว่าจะช่วยลดต้นทุนพลังงาน ลดภาระข้าวของแพง สร้างสมดุลรายได้กับรายจ่าย เพราะหากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ โจทย์ทำให้เศรษฐกิจฟื้นคืน คงอีกยาว…
สุดท้ายเศรษฐกิจไทย อาจต้องติดหลุมกับดักที่ลึกกว่าเดิม หวังกลางปี 2566 คงยากถึง 2567
วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม
