ราคาเหล็กที่จังหวัดมหาสารคามปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัว ทำให้ค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้น ส่งผลราคาเหล็กปรับขึ้น 5-10% เจ้าของร้านขายเหล็กเผยลูกค้าหาย 30-40% ประชาชนชะลอปรับปรุงต่อเติมบ้าน
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ภายหลังจากที่น้ำมันมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ ปรับขึ้นราคาตามค่าขนส่ง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ร้านขายเหล็กในพื้นที่ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายธนากร โยธะคง ผู้ประกอบการร้านค้าเหล็ก เปิดเผยว่า ราคาเหล็กมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้น ทางร้านต้องปรับราคาขายเหล็กตามไปด้วย ซึ่งราคาเหล็กช่วงนี้ผันผวนมากกว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา
โดยปกติช่วงนี้เป็นช่วงที่คนจะต่อเติมบ้าน เช่น ต่อเติมครัว ทำโครงหลังคาเพื่อกันฝน แต่ปีนี้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ชะลอการต่อเติมบ้านลง ทำให้ลูกค้าหายไปกว่า 30-40% จะมีก็เพียงแต่คนที่สร้างบ้านไว้แล้ว ยังสร้างไม่เสร็จ ก็จำเป็นที่ต้องซื้อเหล็กไปใช้ ส่วนผู้รับเหมาที่เคยเป็นลูกค้ากันต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กล้ารับงาน เพราะราคาเหล็กไม่คงที่ รับแล้วกลัวว่าจะขาดทุน
ทั้งนี้ ราคาเหล็กรูปพรรณขึ้นราคาเส้นละ 10-15 บาท คิดเป็นร้อยละ 5-10% ถือว่าสูงมาก ยกตัวอย่างเหล็กกล่องขนาด 2” x 1” จากเดิมราคา 250 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 270 บาท ล่าสุดราคาอยู่ที่ 295 บาท เหล็กกล่อง 3” x 1. ½” จากเดิมราคา 370 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 390 บาท ล่าสุดราคาอยู่ที่ 425 บาท
ด้านผู้รับเหมารายหนึ่งกล่าวว่า เมื่อก่อนโควิด-19 เคยรับเหมาสร้างบ้าน ทั้งบ้านเดี่ยวและหอพัก ต่อมาพอเกิดโควิดได้หยุดรับงานไปพักหนึ่ง จึงมารับงานใหม่ ซึ่งจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ลูกค้าที่อยากจะต่อเติมบ้านลดลง ก่อนจะรับงานก็ต้องดูราคาเหล็กแบบรายวัน ก่อนจะตกลงกับลูกค้าโดยให้มัดจำงานไว้ครึ่งหนึ่ง และจะนำเงินไปมัดจำค่าเหล็กไว้เลย เพื่อที่วันหน้าราคาเหล็กขึ้นเราก็จะได้ราคาเดิม
