กลุ่มสลาก 5ภาค ขอความเห็นใจเสนอทางออก “เพิ่มโควต้ารายย่อย หรือ ขึ้นราคาขายเป็นใบละ 100“

กลุ่มสลาก 5 ภาค ขอความเห็นใจ เสนอทางออก “เพิ่มโควต้ารายย่อย หรือ ขึ้นราคาขายเป็นใบละ 100“

นายประสาน น้อมจันทึก ผู้ดูแลกลุ่มสลาก 5 ภาค เปิดเผยถึง กรณีการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง เริ่มขายตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ว่า สลากดิจิทัลที่ทำการเปิดขายเป็นผลดีต่อผู้ค้าและผู้ซื้อ เนื่องจากได้รับความสะดวกสบายและสามารถซื้อขายได้ในราคา 80 บาท ทำให้สลากดิจิทัลทยอยขายออกได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าผู้ขายสลากจริง หรือผู้ค้าที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นร้านค้าสลากในแอพพ์เป๋าตังอาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากการเปิดขายสลากดิจิทัลได้รับผลตอบรับดี และคาดว่าจะขายหมด 5 ล้านใบภายใน 5-7 วัน หรืออาจจะขายหมดไว้กว่านั้น ล่าสุด ยอดสะสมขายได้ประมาณ 70-80% แล้ว ดังนั้น เมื่อสลากดิจิทัลเหลือน้อยหรือหมดเร็ว ผู้ซื้อจะเลือกมาซื้อสลากกับผู้ค้าสลากใบจริง ธุรกิจขายสลากทั่วไปเปิดขายได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม การที่สลากดิจิทัลขายสลากราคาใบละ 80 บาท จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ซื้อเกิดการเปรียบเทียบมากขึ้น เนื่องจากราคาสลากขายตามแผงทั่วไปอาจมีราคาเกินกว่าที่รัฐกำหนดไว้ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อสลากของผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ได้พูดคุยเรื่องการเพิ่มช่องทางการขึ้นเงินให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น สามารถขึ้นเงินกับทุกธนาคาร โดยให้ธนาคารที่นอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย สามารถผูกบัญชีกับแอพ์เป๋าตังได้ ยังเป็นการหารือเพิ่มเติมที่อาจสามารถทำได้ในอนาคต รวมถึงคนที่ขายสลากดิจิทัลไม่สามารถซื้อสลากดิจิทัลได้ จากความเข้าใจกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมีความกังวลว่าผู้ค้าสลากดิจิทัลจะนำสลากไปขายต่อ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถนำสลากไปขายต่อได้ เพราะเป็นการซื้อขายผ่านแอพพ์ ซึ่งสลากจะยังคงอยู่ในแอพพ์เช่นเดิม ร้านค้าที่ซื้อสลากดิจิทัลไม่สามารถนำสลากดิจิทัลที่ซื้อแล้วนำมาขายต่อได้ หากนำสลากที่ถูกไปขึ้นเงิน เจ้าของสลากต้องเป็นชื่อตรงกับผู้ซื้อในแอพพ์ จึงอาจมีการปรับเงื่อนไขให้ร้านค้าผู้ขายสลากในแอพพ์สามารถซื้อสลากได้เหมือนกับผู้ซื้อสลากทั่วไป

นายประสานกล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่อยากให้กองสลากฯนำไปพิจารณา กรณีการบรรเทารายได้ของผู้ขายสลากทั่วไป คือ การยกเลิกจำกัดโควต้าให้ผู้ค้ารับมาขายเพียง 5 เล่มต่อคน เนื่องจากสัดส่วนเงินที่ผู้ค้าได้รับอยู่ในระดับต่ำ คือ ผู้ค้าขายสลากราคา 80 บาท และคงราคานี้มานานแล้ว ขณะที่ผู้ค้าได้ส่วนแบ่งกำไรใบละ 9 บาท คิดเป็น 12% อีกทั้ง กองสลากฯกำหนดให้ผู้ขายได้โควต้ารับสลากมาขาย 5 เล่มต่อคน เมื่อคิดรายได้รวมต่องวดจะได้ 4,800 บาท และรายได้ต่อเดือน 9,600 บาท เป็นรายได้ที่ไม่พอต่อค่าครองชีพในปัจจุบัน

Advertisement

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เสนอให้กองสลากฯปรับราคาสลากขึ้นเป็นใบละ 100 บาท สัดส่วนของเงินส่วนแบ่งผู้ขาย 12% จะได้กำไรเพิ่ม 12 บาท รายได้เพิ่มขึ้นงวดละ 6,000 บาท และรายได้ต่อเดือน 12,000 บาท จะเป็นราคาเพียงพอต่อการดำรงชีวิตและประกอบชีพเดิมต่อได้

“ปัญหาหลักคือกองสลากฯกำหนดให้ผู้ค้ารับสลากมาขายเป็นจำนวนที่ไม่พอสำหรับรายได้ต่อเดือน ส่งผลให้ผู้ค้าขายสลากเกินราคาเพื่อให้รายได้สอดคล้องกับค่าครองชีพ หากอยากแก้ปัญหาสลากแพง หรืออยากให้ขายราคา 80 บาท ต้องยกเลิกเงื่อนไขกำหนดโควต้า และให้ผู้ขายสลากสามารถนำสลากมาขายในจำนวนมากได้ ทั้งนี้ กรณีที่ไม่สามารถเพิ่มราคาสลากได้ ขอให้กองสลากฯเพิ่มเปอร์เซ็นต์กำไรให้กับผู้ค้าสลากแทน” นายประสาน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image