อั้นไม่ไหว กบน.ขึ้นดีเซลพุ่ง 35 บาท/ลิตร มีผล 14 มิ.ย.นี้

น้ำมัน

อั้นไม่ไหว กบน.ขึ้นดีเซลพุ่ง 35 บาท/ลิตร มีผล 14 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลลิตรละ 1 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 33.94 บาท เป็นลิตรละ 34.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุของการปรับราคาเนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีความผันผวนมาก ราคาน้ำมันดีเซล เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 172.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเดิมสัปดาห์ก่อน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่ราคา 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า โดยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อ เนื่องจากน้ำมันคงคลังของสหรัฐอเมริกาลดลง และการทยอยเปิดประเทศของจีน รวมทั้ง การออกมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่ตกลงจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นราว 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน กรกฎาคม- กันยายน ซึ่งมากกว่าข้อตกลงเดิม แต่นักวิเคราะห์หลายแห่งคาดว่าปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจริงจะค่อนข้างมีจำกัด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโลก

นายวิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซลของไทย มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ซึ่ง กบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 อยู่ที่ระดับลิตรละ 32 บาท และทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ ล่าสุดปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 อยู่ที่ลิตรละ 35 บาทถือเป็นราคาสูงสุด ตามกรอบที่ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไว้

นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีมาตรการด้านภาษี โดยขยายการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 ปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 กรกฎาคม 2565 ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล บี5 อยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ADVERTISMENT

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 12 มิถุนายน 2565 ติดลบ 91,089 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 54,574 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ แอลพีจี ติดลบ 36,515 ล้านบาท ส่วนกระแสเงินสดอยู่ที่ 11,152 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝากธนาคาร 8,277 ล้านบาท เงินฝากที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง 2,875 ล้านบาท