โจทย์ใหญ่จานด่วน บิ๊กธุรกิจถึง ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’
ประเทศไทยกำลังเปิดเมืองอย่างเต็มรูปแบบหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง หลายภาคส่วนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้น
เช่นเดียวกับ ‘กรุงเทพมหานคร’ เมืองหลวง ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ เริ่มตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามมา หลัง ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เข้ามานั่งเป็นพ่อเมืองคนใหม่
ด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดา เป็นทั้งนักวิชาการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และซีอีโออสังหาริมทรัพย์ จึงไม่ใช่แค่ประชาชนที่ฝากความหวัง ยังมีนักธุรกิจใหญ่อีกหลายคนที่ฝากการบ้านถึงผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ หลังเริ่มลุยงานได้ไม่ถึง 1 เดือน
เริ่มจาก ‘บุญชัย โชควัฒนา’ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ บอกว่า จาก 214 นโยบายที่ผู้ว่าฯกทม.หาเสียงไว้ มีความหวังว่าจะทำให้คนเมืองอาศัยในกรุงเทพมหานครดีขึ้นได้ แต่อยากให้จัดลำดับความสำคัญนโยบายที่จะทำก่อนและหลัง ไม่ใช่จะทำพร้อมกันได้หมด โดยให้ประกาศออกมาเลยว่า 5 เรื่องที่จะทำมีอะไร เช่น ปัญหารถติด มลภาวะ น้ำท่วม การศึกษา และต้องลงมือทำเลย อย่ารอเวลา สิ่งสำคัญต้องทำตัวเป็นอิสระ อย่าเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
“รถติด เป็นปัญหาที่ไม่มีใครแก้ได้ ต้องดูว่านโยบายที่ผู้ว่าฯกทม.จะนำมาแก้ปัญหาเป็นอย่างไร ซึ่งรถไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทาง แต่จะทำยังไงให้เข้าถึงได้ง่าย คนหันมาใช้บริการเยอะๆ ส่วนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ผมว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการมากกว่า”
จากเจ้าสัวสหพัฒน์มาฟังเสียงแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีโจทย์ใหญ่จาก ‘อธิป พีชานนท์’ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและสมาคมอาคารชุดไทย ถึงผู้ว่าฯกทม.ว่า ปัญหาของ กทม.ส่วนใหญ่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคและการบริการ โดยขอให้ผู้ว่าฯเร่งแก้ไขใน 5 เรื่อง ได้แก่
เรื่องแรก ปัญหาขยะต้องมีวิธีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ไม่ทิ้งในแหล่งเดิมๆ เช่น อ่อนนุช จนส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง หากจัดการดีๆ จะเป็นประโยชน์ เช่น การนำไปรีไซเคิล เรื่องที่สอง ระบบระบายน้ำ ต้องคิดรูปแบบใหม่ๆ ไม่ใช่เมื่อถึงฤดูฝนจะมีการลอกท่ออย่างเดิมต้องหาวิธีการที่จะแก้ปัญหาในอนาคต เช่น การสร้างท่อเปิด เมื่อมีสิ่งอุดตันจะเห็นและลอกออกได้เรื่องที่สาม ปัญหาการจราจร ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการระบายคน ต้องบูรณาการผังเมืองรวม กทม.กับผังประเทศ วางยุทธศาสตร์ ไม่ให้ กทม.เป็นเมืองโตเดี่ยว ต้องกระจายการพัฒนา แหล่งงาน ความเจริญไปยังภูมิภาค เพื่อลดความแออัดของคน
การแก้ปัญหารถติดอย่าคิดสร้างถนนหรือรถไฟฟ้าอย่างเดียว ต้องแก้ที่ต้นเหตุคือผังเมืองที่ออกแบบพัฒนาพื้นที่ไม่ให้กระจุกตัว เรื่องที่สี่ ระบบการศึกษาก็ต้องยกระดับให้ดีขึ้น และสุดท้ายเรื่องระบบขนส่งมวลชน ซึ่งปัจจุบันมีทั้ง กทม.และกระทรวงคมนาคมกำกับดูแล ทางผู้ว่าฯต้องขอรัฐบาลนำมาบริหารเอง ถึงจะทำให้ผลักดันเรื่องต่างๆ ได้มากกว่านี้ เช่น ค่าโดยสาร เหมือนที่ต่างประเทศให้อำนาจท้องถิ่นบริหาร เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนกระทรวงคมนาคมไปพัฒนาโครงข่ายเชื่อมระหว่างจังหวัดแทน
“ผู้ว่าฯชัชชาติ มีความตั้งใจดี ขยันทำงาน แต่อย่างที่รู้ปัญหา กทม.มีเยอะและสะสมมานาน ต้องใช้เวลาในการบริหาร ซึ่งผู้ว่าฯก็ต้องจัดระบบโครงสร้างของงานใหม่ ตั้งเป้าเลย 1 ปี จะลดขยะได้เท่าไหร่ ฝนตกน้ำจะไม่ท่วมขังกี่นาที มีเคพีไอมาจับ” อธิปกล่าวย้ำ
อีกเสียงสะท้อน ‘อุทัย อุทัยแสงสุข’ ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการติดตาม 214 นโยบายของผู้ว่าฯกทม. หากทำได้หมด เชื่อว่าจะพัฒนากรุงเทพฯได้อย่างครอบคลุมและรอบด้าน เช่น รถติด การพัฒนาเมือง การศึกษา มลภาวะ อย่างไรก็ตาม ขอให้เร่งประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม กทม.โดยเร็ว เพราะล่าช้ามา 2 ปีแล้ว และเร่งแก้ปัญหาต่างๆ ที่ตกค้าง เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว และเก็บค่าโดยสารที่เหมาะสมเพราะเกี่ยวกับค่าครองชีพของประชาชน
เมื่อถามว่าจะให้แก้เรื่องไหนเป็นเรื่องแรก ‘บิ๊กแสนสิริ’ บอกว่า ตอบยาก เพราะปัญหา กทม.มีเยอะ ต้องแก้หลายๆ อย่าง หลายๆ จุดไปพร้อมกัน ถือว่าเป็นภาระหนักและความท้าทายของผู้ว่าฯคนใหม่เหมือนกัน และบางเรื่องก็ต้องอาศัยรัฐบาลด้วย เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ
ฉะนั้น ถือเป็นโอกาสเหมาะ ทางหนังสือพิมพ์มติชน จะจัดสัมมนา ‘สู่โอกาสใหม่ STRONGER THAILAND’ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00-12.00 น. ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ซึ่งสามารถรับฟังได้ทั้งออฟไลน์ และรูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง ผ่านเฟซบุ๊กในเครือมติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ และยูทูบมติชนทีวี งานเริ่มด้วยการฟังภาพรวมทางเศรษฐกิจไทยจากนี้ โดย ‘ดนุชา พิชยนันท์’ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปาฐกถาพิเศษ ‘สู่โอกาสใหม่ STRONGER THAILAND’
จากนั้นจะได้รับฟังบรรยายพิเศษ “ยุทธศาสตร์ใหม่ เพื่อโอกาสใหม่” โดย ‘เกรียงไกร เธียรนุกุล’ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก่อนเข้าโหมดเสวนา STRONGER BANGKOK : STRONGER THAILAND กับคู่สนทนาร้อนแรงสุดสุดอีกคู่ในเวลานี้ ระหว่าง ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มีคอลัมนิสต์และพิธีกรชื่อดัง ‘สรกล อดุลยานนท์’ เป็นผู้ดำเนินรายการ
อีกเวทีหนึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
