ชาวจีน ซื้อห้องชุดไทย ไตรมาสแรกแผ่ว ผลปิดประเทศ จำกัดเดินทาง คาดยาวถึงสิ้นปี

ชาวจีน ซื้อห้องชุดไทย ไตรมาส 1/65 แผ่วลง ผลจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เดินทางออกนอกประเทศไม่ได้

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2565 ยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2564 แม้ว่ารัฐบาลได้มีมาตรการเปิดประเทศแล้ว แต่เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อหลักของห้องชุด ยังคงปิดประเทศอยู่ จำกัดการเดินทาง และใช้นโยบาย โควิดเป็นศูนย์ โดยคาดการณ์ว่าจีนจะยังปิดประเทศไปจนถึงสิ้นปี 2565

“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้ผ่อนคลายให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเป็นระยะๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้มากถึง 6 ล้านคน ในปี 2565 และ 19 ล้านคน ในปี 2566 หากสถานการณ์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติฟื้นตัวเพิ่มขึ้น ก็คาดว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับการซื้อห้องชุด ทดแทนกลุ่มลูกค้าชาวจีนได้” นายวิชัยกล่าวว่า

นายวิชัยกล่าวอีกว่า ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวน 2,107 หน่วย ลดลง -10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านมูลค่าการโอนห้องชุดรวม 10,262 ล้านบาท ลดลง -6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19

โดยสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด ในไตรมาส 1 ปี 2565 ชาวจีน โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวน 949 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 45.0% ลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2564 ที่มีสัดส่วน 53.7% ถือเป็นครั้งแรกที่สัดส่วนชาวจีนมีการซื้อห้องชุดลดลงไม่ถึง 50% ของชาวต่างชาติทั้งหมด

ในด้านจำนวนหน่วย สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย มีการโอนจำนวน 134 หน่วย 6.4% อันดับสาม สหรัฐอเมริกา จำนวน 114 หน่วย 5.4% อันดับสี่ สหราชอาณาจักร จำนวน 91 หน่วย 4.3% และอันดับห้า เยอรมนี จำนวน 81 หน่วย 3.8% ตามลำดับ

ADVERTISMENT

ส่วนในด้านมูลค่า สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศอันดับแรก คือ จีน อันดับรองลงมา คือ รัสเซีย มีการโอนจำนวน 435 ล้านบาท 4.2% อันดับสาม กัมพูชา 401 ล้านบาท 3.9% อันดับสี่ ไต้หวัน 391 ล้านบาท 3.8% และอันดับห้า ฝรั่งเศส 390 ล้านบาท 3.8% ตามลำดับ

นายวิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุดในไตรมาส 1 ปี 2565 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 829 หน่วย 39.3% และชลบุรี จำนวน 677 หน่วย 32.1% ทำให้มีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึง 71.5% ของทั่วประเทศ

จังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้กับชาวต่างชาติมากที่สุดเป็นอันดับสามถึงอันดับห้า ได้แก่ สมุทรปราการ จำนวน 230 หน่วย คิดเป็น 10.9% ภูเก็ต จำนวน 164 หน่วย สัดส่วน 7.8% และเชียงใหม่ จำนวน 97 หน่วย 4.6% ซึ่งเมื่อรวม 5 จังหวัดดังกล่าวข้างต้น มีจำนวนหน่วยรวมกันเป็นสัดส่วนมากถึง 94.8% ของทั้งประเทศ ส่วนจังหวัดอื่นๆ อีก 72 จังหวัด มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในชาวต่างชาติรวมกันเพียง 5.2% เท่านั้น