‘พล.อ.นิพัทธ์’ ยัน สัมมนา ‘Stronger Thailand’ พลาดไม่ได้สักวินาที ชี้ช่องแก้ไข-เส้นทาง ศก.ไทย

‘พล.อ.นิพัทธ์’ ยัน สัมมนา ‘Stronger Thailand’ พลาดไม่ได้สักวินาที ชี้ช่องแก้ไข-เส้นทาง ศก.ไทย

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพฯ หนังสือพิมพ์มติชน จัดสัมมนา “สู่โอกาสใหม่ Stronger Thailand” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมให้มุมมองตลอดจนแนวทางอนาคตของไทย หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไป

ทั้งนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมเวทีด้วย คู่กับนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ “Stronger Bangkok ; Stronger Thailand”

โดยมีคณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.ทั้ง 4 คนมาร่วมฟังความเห็น ได้แก่ นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม., พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก, พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี, และ น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ คณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.

โดยเวลา 13.30 น. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงงานเสวนา ‘สู่โอกาสใหม่ Stronger Thailand’ ว่า งานนี้มติชนจัด รวมเอาบุคคลระดับแม่เหล็ก ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งตัวบุคคลก็สำคัญ และเนื้อหาสาระที่ทุกคนพูดบนเวที แทบจะพลาดไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว ตั้งแต่เลขา สศช. ประธานสภาอุตสาหกรรม นายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. และนายเศรษฐา คนที่ได้ดู ได้ฟังรายการในวันนี้ จะได้เข้าใจและเห็นภาพทั้งหมด ซึ่งคือการเห็นปัญหา และมีความคาดหวัง เพราะเวทีนี้ไม่ใช่การเอาปัญหามาโยนใส่อย่างเดียว แต่ยังบอกวิธีแก้ด้วย

Advertisement

“ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่คนไทยอยากฟัง เวทีนี้มีคุณค่ามาก อยากให้ไปดูย้อนหลัง โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจ จะได้รู้ว่าถนนเส้นนี้กำลังไปทางไหน อย่างไร” พล.อ.นิพัทธ์กล่าว

พล.อ.นิพัทธ์กล่าวต่อว่า นโยบายของนายชัชชาติ สอดคล้องกับการเป็น Stronger Bangkok อย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนายชัชชาติได้ทำการบ้านมานานกว่า 3 ปี และมีทีมคนหนุ่มสาวเข้ามาไล่เรียงและหาทางแก้จน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นายชัชชาติพูดเสมอ

“หากเอามาร้อยเรียงแล้ว เรื่องแรกคือเรื่องปากท้อง ซึ่งในเวทีวันนี้ที่ท่านขึ้นไปพูดก็ตรงกัน แต่อยู่ในมุมของกรุงเทพมหานคร กลายเป็นว่าทุกอย่างมันสอดรับกันหมด อะไรที่ทำได้ก็จะทำก่อน และอะไรที่ยังทำไม่ได้ ก็จะต้องทำไป” พล.อ.นิพัทธ์กล่าว

Advertisement

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องจาก พล.อ.นิพัทธ์ดูเรื่องของการศึกษา เวลานี้ผู้ว่าฯกทม.ได้เข้ามาขอคำแนะนำ หรือปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาบ้างหรือไม่ ?

พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า เยอะมาก ต้องขอบคุณท่านผู้ว่าฯกทม.

“ขอบคุณผู้ว่าฯ ที่ให้โอกาสผมเข้ามาทำงาน ผมได้กราบเรียนท่านผ่าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. ให้ไปถึงท่านผู้ว่าฯ ว่าเราจะทำเรื่องการศึกษาให้ดี เรื่องย่อยอีก 29 ข้อ เราใส่ใจเรื่องของ Wifi ในโรงเรียน ซึ่งตอนนี้เราได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว และให้ทางสำนักการศึกษา ตรวจสอบข้อเท็จจริง และบริษัทที่รับผิดชอบอยู่จะแก้ไขอย่างไร ถ้า Wifi ในโรงเรียนไม่มี มันเหมือนรถไม่มีน้ำมัน มันจบเลยนะ” พล.อ.นิพัทธ์กล่าว และว่า

ส่วนอีกเรื่องคือเรื่อง “ห้องน้ำ” ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ และเรื่องของ “คอมพิวเตอร์” ซึ่งทุกวันนี้คือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตไปแล้ว เด็กที่เรียนในโรงเรียน กทม. 200,000 กว่าราย ครูอีก 14,000 กว่าราย ในโรงเรียนสังกัด กทม. 437 แห่ง ทุกวันนี้ขาดคอมพิวเตอร์ไม่ได้

พล.อ.นิพัทธ์กล่าวถึงนโยบายปลดล็อกกัญชาด้วยว่า ต้องบอกว่า กทม.คือหน่วยงานแรกที่ออกประกาศ ตนก็มีส่วนในการร่าง และให้ทางสำนักการแพทย์ กทม. และสำนักอนามัย ไปตรวจ ปรากฏว่าเย็นนั้นสามารถประกาศได้ทันที สิ่งที่ทำมาเป็นรูปธรรม คือการประกาศ และทำสติ๊กเกอร์ติดเป็นสัญลักษณ์

ส่วนเรื่องหน้าโรงเรียน ให้ทางครู-อาจารย์ช่วยกันสอดส่อง เพราะพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรปนเปื้อนมาหรือไม่ เราก็พยายามดูแลเท่าที่เราจะทำได้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/MatichonOnline/videos/1464258557425754/

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image