‘พาณิชย์’ ชี้ส่งออกไทยรอเผชิญ 4 ความท้าทายในครึ่งหลังปี’65

‘พาณิชย์’ ชี้ส่งออกไทยรอเผชิญ 4 ความท้าทายในครึ่งหลังปี’65

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติมูลค่าภาคการส่งออก ปี 2564 โตขึ้น 17.1% ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เงินบาทอยู่ที่ 18.9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.5 ล้านล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 หากเทียบกับปี 2562 ยังสามารถเติบโตได้ประมาณ 12% ถือว่าประคองตัวได้ดี โดยเป้าหมายการเติบโตในปี 2565 อยู่ที่ 9 ล้านล้านบาท หรือโตประมาณ 6%

นายนันทพงษ์กล่าวว่า ความท้าทายที่จะรออยู่ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มี 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.เศรษฐกิจชะลอตัว มีความสำคัญมาก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกเหลือ 3.6% จาก 4.0% ทำให้เห็นภาพการชะลอตัวมีโอกาสจะเกิดขึ้น 2.ต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งในด้านการผลิตและการขนส่ง แม้ปัจจุบันเราได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อน แต่หากค่าเงินผันผวนมากขึ้น แรงบวกก็จะหายไป รวมถึงต้นทุนที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐเงินเฟ้อสูง พุ่งสูงถึง 8.6% ทำให้ต้องใช้การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยในกลุ่มสินค้าคงทน 3.นโยบายระหว่างประเทศและ 4.การหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะจีน ในกลุ่มตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพสูงมาก นอกจากการขนส่งทางเรือ ก็มีการพัฒนาขนส่งผ่านรถไฟลาว-จีน ไม่ต้องผ่านเวียดนาม ที่เป็นคู่แข่งไทยในบางสินค้า ทำให้อาจลดต้นทุนได้ 1-2 เท่า รวมถึงอินเดียด้วย

“สหรัฐและจีน เป็นตลาดหลักของการส่งออกไทย โดยทั้ง 2 ประเทศก็พยายามหาพันธมิตรในเรื่องของซัพพลายเชน ขณะนี้สหรัฐและยุโรปก็สร้างซัพพลายเชนใหม่ในกลุ่มพันธมิตร ส่วนจีนก็สร้างซัพพลายเชนใหม่กับประเทศเอเชีย ซึ่งไทยจะเข้าไปในเวทีการค้าระหว่างประเทศใด ก็ต้องบริหารและตัดสินใจให้ได้ อย่างระมัดระวังและพิจารณาความเหมาะสม” นายนันทพงษ์กล่าว

นายนันทพงษ์กล่าวว่า กลยุทธ์การเดินหน้าภาคการส่งออก ผ่านนโยบายรัฐหนุน เอกชนนำ ซึ่งเป็นนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการหาตลาดใหม่ในประเทศที่มีโอกาส และผ่านแพลตฟอร์มใหม่อย่างช่องทางออนไลน์มากขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image