นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เปิดเผยว่า จากกรณีในสื่อสังคมออนไลน์(โซเชียลมีเดีย)เวลานี้ มีผู้ออกมาเตือนเรื่อง การขายข้าวของชาวนาผ่าน ที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยตรงไปยังผู้บริโภค ว่า อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง มีโทษจำคุก 1ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สคบ.ขอชี้แจงว่า ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ระบุว่า การทำตลาดขายสินค้าหรือบริการ ในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทาง และมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น ความจริงการขายในลักษณะนี้ หรือเรียกสั้นๆว่าการขายแบบออนไลน์ ผู้ขายต้องให้ข้อมูลผู้บริโภค เพื่อประกอบการตัดสินใจในการที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ซึ่งการที่ชาวนาโพสต์ขายข้าว เห็นว่าไม่มีลักษณะและเจตนาที่จะประกอบธุรกิจอย่างจริงจัง เป็นเพียงแค่การหาช่องทางระบายข้าวแบบเป็นครั้งคราว
” ชาวนาสามารถขายข้าวเองได้ ไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากวิธีการขายเป็นการนำผลผลิตของตัวเองออกจำหน่ายแก่ผู้บริโภค ไม่ได้ขายผ่านตัวแทนขายตรง หรือ ผู้จำหน่ายอิสระ รวมถึงไม่ได้มีแผนการจ่ายผลตอบแทนเหมือนกับการขายตรงด้วย จึงถือว่าไม่เข้าข่ายการขายตรงตามที่กฎหมายกำหนดในมาตรา 3 ที่ระบุว่า การขายตรง คือการเสนอขายสินค้าต่อผู้บริโภคโดยตรงผ่านตัวแทนขายตรง โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคตอบกลับซื้อสินค้า หรือบริการของผู้ประกอบธุรกิจขายตรง” นายพิฆเนศ กล่าว
นายพิฆเนศ กล่าวว่า สำหรับ การโพสต์ข้อความให้ชาวนาไปเสียเงินจดทะเบียนตลาดแบบขายตรงกับสคบ.ในแต่ละจังหวัด ขอชี้แจงว่า การยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงหรือการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งการยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงและธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องไปยื่นคำขอจดทะเบียน ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะกฎหมายยังไม่ให้อำนาจส่วนอื่นใดรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง หรือการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง
