เช็กราคาน้ำมันวันนี้ 29 มิ.ย. เบนซิน95 เฉียด 54 บ. ลุ้นลดราคาขายปลีกหลังค่าการขยับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น และบางจาก ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เว้น อี85 ปรับขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม มีผลวันนี้(29 มิถุนายน 2565) เวลา 05.00 น.
ราคาขายปลีกดังนี้ เบนซิน 95(เฉพาะพีทีที สเตชั่น) ราคา 52.56 บาทต่อลิตร , แก๊สโซฮอล์95 ราคา 45.15 บาทต่อลิตร, อี20 ราคา 44.04 บาทต่อลิตร , แก๊สโซฮอล์91 ราคา 44.88 บาทต่อลิตร , อี85 ราคา 37.54 บาทต่อลิตร ,พรีเมี่ยมแก๊สโซฮอล์95(เฉพาะพีทีที สเตชั่น) = 50.64 บาทต่อลิตร, ดีเซล 34.94 บาทต่อลิตร ดีเซลพรีเมี่ยม(เฉพาะพีทีที สเตชั่น) ราคา 46.36 บาทต่อลิตร และดีเซลพรีเมี่ยม(เฉพาะบางจาก) ราคา 49.36 บาทต่อลิตร โดยราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.
จากการตรวจสอบราคาน้ำมันทุกสถานีบริการทั้งของรัฐและเอกชน พบว่า มีการปรับราคาทุกปั๊ม โดยเฉพาะปั๊มเอกชนตั้งราคาเบนซิน 95 เฉียด 54 บาทต่อลิตรแล้ว โดยราคาจากตาราง ดังนี้
ขณะที่โครงสร้างราคาน้ำมันของไทยวันนี้ พบว่า ค่าการตลาดขยับเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ราคาขายปลีดลดราคาลงได้ โดยค่าการตลาดดังกล่าวเป็นผลมาจาก ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ ปิดตลาดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ปรับลดลง ทั้งเบนซิน95 และดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ 155.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 167.09 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 3.02 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส เบรนท์ และดูไบ ต่างปรับขึ้นทั้งหมด อยู่ที่ 111.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.19 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 117.98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 113.06 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ ตางรางดังนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องตลาดกังวลอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว หลังซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่อาจไม่สามารถเพิ่มการผลิตขึ้นได้อีกมากนัก เนื่องจากการผลิตน้ำมันใกล้เต็มศักยภาพตามโควต้าที่ 3.168 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกัน การประชุมผู้นำ G7 เห็นพ้องที่จะหาทางจำกัดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียในตลาดโลกจากการที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจนนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ภาวะความไม่สงบทางการเมืองในเอกวาดอร์และลิเบียยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันที่ลดลง
ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 30 มิถุนยน หลังจากมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม อีกทั้งติดตามผลการเจรจาตามข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านในวันนี้ ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
รวมทั้ง หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 24 มิถุนายน ปรับตัวลดลงกว่า 3.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล และสำหรับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
