ธุรกิจกิน-ดื่มฟื้นแค่ 40% ผู้ประกอบลงชื่อทวงศบค.ปลดล็อก ‘ห้ามขายบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น’

ธุรกิจกิน-ดื่มฟื้นแค่ 40% ผู้ประกอบลงชื่อทวงศบค.ปลดล็อก ‘ห้ามขายบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น’

นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) เปิดเผยว่า จากการได้พบปะกับผู้ประกอบการให้ธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจกลางคืน หลังจากรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์ข้อมูลโควิด-19 (ศบค.) อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดให้บริการได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ไม่พบว่ามี คลัสเตอร์ใหม่ของโรคโควิดที่เกิดจากสถานบันเทิง ประกอบการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวกลางคืนฟื้นตัวขึ้นแล้ว 40% เทียบก่อนเกิดโควิดระบาด ทั้งสังเกตเห็นการกลับมาเปิดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัด อาทิ สตรีทฟู้ด รถรับจ้างสาธารณะ ร้านค้าย่อย แผงลอย ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารหนาตาขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึงการจ้างงานและการหมุนเวียนในการจับจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถือได้ว่า ภาคธุรกิจ ร้านค้า หรือการท่องเที่ยวกลางวัน พลอยคึกคักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นายธนากร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวน่าจะดีกว่านี้ หากปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของการท่องเที่ยวภาคกลางคืนและกลางวันหมดลง ซึ่งแม้จะมีการผ่อนคลายแต่ในทางปฎิบัตหลายเรื่องยังเป็นอุปสรรคที่เกินจำเป็นไม่เหมาะสมกับสภาพการอย่างเห็นได้ชัด เช่น การอนุญาตให้ปิดสถานบันเทิงในช่วงเวลาตีสอง โดยระบุว่าให้เป็นไปตามกฎหมายเดิม ซึ่งในส่วนของกฎหมายเดิมนั้น มีการเรียกร้องและร้องขอจากผู้ประกอบการมาก่อนแล้วเกี่ยวกับสถานบันเทิงที่อยู่ในโซนนิ่ง โดยขอให้มีการพิจารณาพื้นที่ในบางพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภาคกลางคืนจากสถานบันเทิง และ อยากขอให้รัฐพิจารณาอนุญาตสถานบันเทิงสามารถประกอบธุรกิจและปิดกิจการได้จนถึงตีสอง( 02.00น.) ในทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีหลายจังหวัดที่ผู้ว่าราชการยังไม่อนุมัติ อีกเรื่องคือขอให้รัฐเร่งพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องการยกเลิกเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาบ่าย 2 โมงถึง 5 โมงเย็น ( 14.00-17.00 น.) เนื่องจากเวลาห้ามขายดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบรรยากาศและการประกอบธุรกิจประเภทร้านอาหารและโรงแรมเพราะเวลาห้ามดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับการที่ต้องเสียโอกาสในการประกอบธุรกิจไปอย่างไม่จำเป็น ถ้ารัฐบาลเห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าว จะไม่เป็นการป้องกันเกี่ยวกับการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กและเยาวชนหรืออุบัติเหตุบนท้องถนน จะพบว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับในช่วงเวลาการห้ามขายดังกล่าวแต่ยังใด

“เรื่องที่ผู้ประกอบการนำเสนอนี้ ได้เสนอมาแล้วหลายครั้งและเป็นเรื่องรัฐสามารถอนุญาตได้เลย เพราะไม่ได้เป็นการร้องขอเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและสถานบันเทิง จะติดตามผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่ทราบว่าจะประชุมในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ หากไม่มีความคืบหน้าประเด็นที่เสนอไป กลุ่มผู้ประกอบการก็จะทำหนังสือร้องรัฐและศบค. เร่งการพิจารณาทบทวนประเด็นที่ร้องขอเพื่อลดปัญหาและอุปสรรคโดยเร็ว ควรมีการดำเนินการก่อนที่จะเข้าฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากขึ้น ตอนนี้การฟื้นตัวของธุรกิจกลับมาแล้ว 40% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพียงแต่จากนี้จะทำอย่างไรเพื่อให้การฟื้นตัวกลับมาเร็วและแข่งขันได้กับทุกประเทศ ที่เชื่อว่าจะโหมจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายเมื่อเข้ามาพักในไทย อีกเรื่องที่อยากให้ทบทวนคือยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ถือเป็นภาพพจน์ที่ดีในสายตาต่างชาติว่าไทยพร้อมเปิดประเทศ และสถานการณ์ในประเทศไทยปกติดีแล้ว” นายธนากร กล่าว

นายธนากร กล่าวถึงตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เริ่มดีขึ้นหลังจากผ่อนคลายเวลาเปิดบริการและนักท่องเที่ยวมากขึ้น กิจกรรมรื่นเริงเริ่มกลับมา แต่ยังมีเรื่องกังวลในเรื่องซัพพลายเชนการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่แหล่งผลิตมาจากยุโรป ผู้ผลิตกำลังประสบปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน เช่น ขวดแก้ว อีกทั้งภาวะเงินเฟ้อ และเงินบาทอ่อนค่า จะส่งผลต่อราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้ามีการปรับราคาสูงขึ้น ปกติการปรับราคาไม่เกิน 5-10% แต่เชื่อว่าสต็อกใหม่ราคาจะขึ้นเกิน 10% ทั้งนี้ ปริมาณและราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้ายังเป็นสต็อกเก่าที่การขายไม่ได้ในช่วงโควิดระบาด 2 ปีที่ผ่านมา

Advertisement

นายเสน่ห์ สมศรี นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร ( RGPA ) กล่าวว่า สมาคมฯมีสมาชิกเกือบ 5,000 ร้านค้า และจ้างพนักงานทั่วประเทศกว่า 6 หมื่นคน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 เรื่อยมาก จนสมาชิกบางรายต้องปิดกิจการหรือลดจำนวนพนักงานลง แต่หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายให้มีการทานอาหารในร้านได้ อนุญาตให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และการเปิดประเทศ การฟื้นตัวร้านค้าก็ดีขึ้น แต่ก็ยังติดเรื่องกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่เข้าใจ เหตุผลที่ห้ามขายในช่วงเวลานี้ ทำให้ยอดเข้าร้านในช่วงนี้หายไปหมด ทำให้เสียโอกาสการทำการค้า ขระที่บผู้บริโภคบางรายนำสุราเข้ามาดื่มเองก็ห้ามเขาไม่ได้เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามดื่มในร้าน เพื่อให้สมเหตุสมผลก็น่าจะปลดล็อก

“สมาคมเราพร้อมเข้าไปชี้แจงแสดงเหตุผลเพื่อการยกเลิกการห้ามขายดังกล่าวนี้ ขอให้รัฐบาลได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการตัวจริงของพวกเรา ทั้งนี้ สมาคมจะได้ทำการยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป ยิ่งรัฐบาลพิจารณาเร็วจะช่วยการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวมากขึ้น” นายเสน่ห์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image