| ผู้เขียน | ปิยะวรรณ ผลเจริญ |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : ผู้นำควรทำให้เห็น!!
ปัญหาพลังงานแพงเป็นเรื่องที่ประเทศไทยหลีกเลี่ยงยาก เพราะไทยต้องนำเข้าเป็นหลัก ยกตัวอย่างมูลค่านำเข้าน้ำมันดิบช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2565) ไทยนำเข้าเกือบ 1 แสนล้านบาท แพงขึ้นเกือบ 100% หรือเท่าตัว
เวลานี้ไปทางไหนมีแต่คนบ่น “น้ำมันแพง” จากเคยเติมด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่รับได้ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เวลานี้จึงต้องลุ้นว่ารัฐจะรีดกำไรจากโรงกลั่นมาได้หรือไม่
นี่ยังไม่นับรวมราคาพลังงานในส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะค่าไฟ ตอนนี้ยังอุ้มอยู่ ถ้าลอยตัวคือจุกกว่านี้แน่ นอกจากนี้ยังรวมถึงก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี เชื้อเพลิงหุงหาอาหารที่ครัวเรือนแทบทุกหลังต้องมีเช่นกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ มีกระแสสังคมทั้งหนุนและต้าน หลังจากเพจเฟซบุ๊ก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) โพสต์แนะนำ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ ทางเลือกของกลุ่มคนจนผู้มีรายได้น้อย โดยเตาชนิดนี้จะช่วยประหยัดการใช้ถ่านได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับเตาถ่านทั่วไป
กระแสหนุนมาจากกลุ่มผู้ใช้ประจำ หรือกลุ่มที่หันมาใช้เตาอั้งโล่ ทำให้ยอดขายเตาสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนกระแสต้านจากกลุ่มที่มองว่าเตาประเภทนี้สร้างมลพิษ เพิ่มการตัดไม้ สวนทางกระแสโลก เปรียบไทยกำลังกลับสู่ยุคล้าหลัง
ประเด็นเหล่านี้เถียงกันไปก็ไม่จบสิ้น เพราะบริบทของประเทศไทยเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำและทุกคนมีทางเลือก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ จิตสำนึก ความตระหนัก เรื่องการประหยัดพลังงาน เรื่องนี้ต่างหากสำคัญที่สุด และต้องเริ่มจริงจังจากรัฐบาล
แต่รัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จริงจังแค่ไหน พฤติกรรมการใช้พลังงานของรัฐบาล สถานที่สำคัญอย่างทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา หน่วยงานรัฐต่างๆ จริงจังและจริงใจกับเรื่องนี้แค่ไหน พฤติกรรมการติดเครื่องยนต์ระหว่างรอ รถนำขบวน ฯลฯ
ล่าสุด 1 ใน 8 มาตรการพลังงาน ที่รัฐบาลประกาศใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565 คือ การขอความร่วมมือในการประหยัดพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ก็ไม่เห็นแอ๊กชั่นใดๆ จากผู้นำที่จะทำให้ประชาชนอยากร่วมมือประหยัดพลังงาน
เริ่มจากผู้นำประเทศเถอะ ไม่เช่นนั้นพวก 10 วิธีประหยัดไฟ หรือ 10 วิธีประหยัดน้ำมัน ที่กระทรวงพลังงานพยายามรณรงค์ก็ไม่มีประโยชน์
