อสังหาชง ‘ชัชชาติ’ ปรับโซนผังเมือง ‘อยู่เจริญ’ พลิกที่ดินหมื่นล้านผุดบ้านหรู-ปลูกพืชเกษตร

อสังหาชง ‘ชัชชาติ’ ปรับโซนผังเมือง ‘อยู่เจริญ’ พลิกที่ดินหมื่นล้านผุดบ้านหรู-ปลูกพืชเกษตร

นายชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อยู่เจริญ เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์ “อยู่เจริญ” เปิดเผยว่า บริษัททำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มา 40 ปี มีทั้งคอมเมอร์เชียล ทาวน์เฮาส์ และที่ดินเปล่าให้เช่า ล่าสุดรีแบรนด์ใหม่ให้ทันสมัยและขยายการลงทุนในทำเลใกล้เมืองมากขึ้น เช่น ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) มี 3 โครงการ มูลค่า 3 พันล้านบาท ได้แก่ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น 14 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 431 ตารางเมตร ราคา 38-46 ล้านบาท โดยได้จัดโปรลดราคาเหลือ 33 ล้านบาท และอยู่ใกล้โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ “อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์” 208 ยูนิต ราคา 2.8-5 ล้านบาท

“ซึ่งยอดจองโฮมออฟฟิศเริ่มมีแล้ว ส่วนคอนโดมิเนียมยอดขายเริ่มชะลอตัว มีลูกค้าชะลอโอน 10-20% จากยอดขาย 60% เป็นไปตามภาวะตลาดจากติดปัญหากู้ธนาคารไม่ผ่านเป็นจำนวนมาก อีกโครงการ “บ้านอยู่เจริญ อีสต์วิลล์” บ้านแฝดและทาวน์โฮม พื้นที่ใช้สอย 355-430 ตารางเมตร อยู่หลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ จำนวน 27-28 ยูนิต ราคา 38-45 ล้านบาท กำหนดเปิดขายเดือนกันยายนนี้”

“หลังรัฐเปิดประเทศ สถานการณ์เริ่มคลี่คลายทำให้ตลาดอสังหาฯ เริ่มกลับมาฟื้น แต่ต้องรอดูสถานการณ์ครึ่งหลังปีนี้ ถ้าไม่มีอะไร คาดว่าแนวโน้มตลาดจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้มีข้อกังวลค่าแรง ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น บริษัทพยายามบริหารจัดการไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคมากนัก จะยังไม่ขึ้นราคาบ้านและจัดโปรโมชั่นจูงใจมากขึ้น ปลายปีนี้บริษัทจะนำที่ดิน 2 ไร่ รามอินทรา 57 พัฒนาบ้านเดี่ยว ราคา 28 ล้าน จำนวน 3 หลัง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู” นายชนฐนพค์กล่าว

Advertisement

นายชนฐนพค์กล่าวว่า บริษัทมีแลนด์แบงก์รอพัฒนา 1,000 ไร่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท กระจายอยู่ในกรุงทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด เช่น ถนนรามอินทรา ถนนรัชดาภิเษก จ.ราชบุรี จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ได้มีการนำมาพัฒนาเป็นเกษตรกรรมเพื่อบรรเทาภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปี 2565 จัดเก็บในอัตรา 100% ในระหว่างรอจังหวะเพื่อนำออกมาพัฒนาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยได้ปลูกต้นยูคาลิปตัส กล้วย มะพร้าว ซึ่งพัฒนาไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

“การที่รัฐจัดเก็บภาษีที่ดิน โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดี เพื่อที่รัฐ หรือท้องถิ่นจะได้นำรายได้มาพัฒนาพื้นที่ต่อไป เช่น ก่อสร้างถนน แต่ต้องแยกกับการบริหารจัดการ ซึ่งการที่บริษัทนำที่ดินเปล่ามาพัฒนาเกษตรกรรมนั้น เราทำมานานแล้วเพื่อไม่ให้ที่ดินถูกปล่อยทิ้งร้าง แต่ตอนนี้ก็ทำให้ถูกต้องตามเกณฑ์ของกฎหมายที่กำหนด เพราะถ้าเราไม่ทำก็เสียภาษีมากเหมือนกันถึง 100 ล้านบาท”

นายชนฐนพค์กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอต่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ขอให้ลดระเบียบขั้นตอนการบริการติดต่อกับหน่วยราชการ และจัดระเบียบโซนการพัฒนาที่ดินในผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่ให้มีความเหมาะสม และมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น เพิ่มพื้นสีเขียว สีเหลือง สีแดงพาณิชยกรรม เป็นต้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image