โซไซตี้ พาส บุกตลาดไทย เข้าซื้อกิจการกลุ่มธอทฟูล มีเดีย ต่อยอดธุรกิจมัลติแพลตฟอร์มวิดีโอดิจิทัลและโซเชียล
เดนนิส เหวิน ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ โซไซตี้ พาส (SoPa) กล่าวว่า โซไซตี้ พาส อินคอร์ปอเรท (“SoPa” หรือ “Society Pass”) (Nasdaq: SOPA) แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเข้าซื้อกิจการ ธอทฟูล มีเดีย กรุ๊ป (“ธอทฟูล มีเดีย”) เครือข่ายมัลติแพลตฟอร์ม MPN วิดีโอดิจิทัลระดับพรีเมียมที่เน้นตลาดโซเซียลคอมเมิร์ซ มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย และยังดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นการรุกตลาดในไทยเป็นครั้งแรกของ SoPa เพื่อสร้างการเติบโตในระบบนิเวศของ SoPa ให้เพิ่มมากขึ้นภายใต้การผสานรวมกับบริษัทเทคโนโลยี หวังขยายตลาดสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
ธอทฟูล มีเดีย ก่อตั้งขึ้นปีใน 2553 ปัจจุบันสร้างสรรค์และวางแผนแคมเปญโฆษณาดิจิทัล ใน MPN ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในสหรัฐอเมริกา ธอทฟูล มีเดีย มีทีมงานที่มีความรู้ความเข้าใจในตลาดแต่ละประเทศ มีเครื่องมือเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัล และด้วยการมุ่งเน้นการทำโซเชียลคอมเมิร์ซ กลุ่มผู้ลงโฆษณาสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ในการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขายพื่นที่โฆษณาตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยปัจจัยจากการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์พาร์ตเนอร์ ทำให้ธอทฟูล มีเดียสร้างส่วนแบ่งรายได้โฆษณา จากคอนซูมเมอร์แบรนด์ ในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น สอดคล้องกับรายงานจากแอ๊กเซนเจอร์ (Accenture) คาดการณ์ตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 43.2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2568 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 26% ต่อปี
ทั้งนี้ ธอทฟูล มีเดีย สร้างสถิติรายได้ถึง 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 208.8 ล้านบาท ในปี 2564 นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ธอทฟูล มีเดีย อัพโหลดวิดีโอมากกว่า 675,000 วิดีโอ และมีผู้ชมมากกว่า 80 พันล้านวิว โดยมีเครือข่ายช่องยูทูบ 263 ช่อง และยอดสมาชิกมากกว่า 85 ล้านคน ด้วยยอดผู้ชมเฉลี่ยมากกว่า 600 ล้านวิว
นอกจากนี้ โซเชียลคอมเมิร์ซของธอทฟูล มีเดีย จะช่วยขยายการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซและกลุ่มรีเทลของ SoPa จากการเติบโตของกลุ่มอินฟลเอนเซอร์ ซึ่งมีส่วนในการตัดสินใจซื้อ มีส่วนผลักดันการเติบโตของจำนวนแบรนด์ ในการย้ายเม็ดเงินโฆษณามายังกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์บนโลกโซเชียล SoPa ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นในการสร้างสายสัมพันธ์อย่างมีคุณภาพ ผ่านแคมเปญที่สามารถผสานการทำงานร่วมกันจากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้
ด้วยเครื่องมือโฆษณาดิจิทัล และความเชี่ยวชาญของธอทฟูล มีเดีย จะช่วยสนับสนุนแพลตฟอร์ม Society Points หรือคะแนนโซไซตี้เพื่อ ยกระดับแพลตฟอร์มรอยัลตี้ไปสู่โปรแกรมของ SoPa อีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้ กลุ่มผู้ลงโฆษณาทุกประเภทสามารถใช้ข้อมูลจากระบบ Society Points เป็นข้อมูลพื้นฐานในการปรับปรุงกลุ่มเป้าหมาย และประสิทธิภาพในการใช้งบการตลาดดิจิทัล ด้วยผลิตภัณฑ์ของ SoPa สามารถนำเสนอตำแหน่งทางการตลาดที่เฉพาะเจาะจงได้ เพื่อทำให้ธอทฟูล มีเดีย เป็นผู้นำด้านการทำตลาดรีเทลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางสำหรับคอนซูมเมอร์แบรนด์ทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก
เดนนิส เหวิน กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่มีธอทฟูล มีเดียเข้ามาเพิ่มอยู่ในอีโคซิสเต็มส์ของ SoPa โมเดลธุรกิจที่เน้นโซเชียลคอมเมิร์ซของธอทฟูลช่วยเติมเต็มกลยุทธ์การเติบโตของโซไซตี้ พาส ได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้เราได้รับความสนใจจากผู้บริโภค และสร้างรายได้จากแบรนด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากนี้แล้ว โซไซตี้ พาส รู้สึกตื่นเต้นที่การเข้าซื้อกิจการครั้งแรกในไทยดำเนินการสำเร็จเรียบร้อย และเตรียมตัวที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มรอยัลตี้สู่ผู้บริโภคชาวไทย 65 ล้านคน”
แดน ธอร์แมน ซีอีโอ ธอทฟูล มีเดีย กล่าวว่า “ธอทฟูล มีเดีย บริหารงานโดยทีมบริหารที่มประสบการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสหรัฐอเมริกา เราให้บริการคอนเทนต์ครีเอชั่นและบริการเทคโนโลยี กับเจ้าของสื่อ ซึ่งสร้างคอนเทนต์ และได้รับรายได้จากแบรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมากมาย จากประสบการณ์การทำงานภาคสนามมาหลายปี และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการพัฒนาความสามารถพิเศษในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ การผลิตคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย การประสานงานกับแคมเปญโฆษณา การรวมข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ และนำข้อมูลเหล่านี้ขึ้นบนเครือข่าย MPN ทำให้เราติดตามวิดีโอหลายล้านวิวต่อเดือน บนแพลตฟอร์มโซเชียลหลัก ความร่วมมือกับโซไซตี้ พาส จะช่วยธอทฟูล มีเดีย ปลดล็อกข้อจำกัด และเปิดกลยุทธ์ในการสร้างโอกาสกับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ และผู้ลงโฆษณา รวมถึงการวางแผนทำ cross-marketing คู่ขนานไปกับการทำแคมเปญบนอีโคซิสเต็มส์ของ SoPa เราคาดหวังว่าจะสามารถผลักดันการเติบโตได้มากในปี 2565 นี้และปีถัดๆ ไป”
