น้ำมันโลกลด แต่กองทุนน้ำมันยังสาหัส ติดลบเพิ่ม 1.12 แสนล้าน จำเป็นอุ้มดีเซล-แอลพีจี

น้ำมันโลกลด แต่กองทุนน้ำมันฯยังสาหัส ติดลบเพิ่ม 1.12 แสนล้านบาท จำเป็นอุ้มดีเซล-แอลพีจี

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่าเป็นการปรับขึ้น/ลงรวดเร็วผันผวนมาก ไม่สามารถประเมินแนวโน้มในระยะข้างหน้าได้ ซึ่งถ้าไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ ก็คาดว่าราคาน้ำมันตลาดโลกน่าจะทรงๆ อยู่ในระดับนี้ต่อไป

ทั้งนี้ ต้องติดตามปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมัน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 1.5-1.75% การกลับมาระบาดของโควิดอีกครั้งในเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน ผลกระทบจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงผลการเดินทางของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ในการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อฟื้นความสัมพันธ์กับเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมานของซาอุดีอาระเบีย ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร มีผลต่อตลาดหรือไม่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

“ผลจากการที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง ทำให้กองทุนมีภาระการอุดหนุนราคาดีเซลลดลงไปเกือบ 10 บาท/ลิตร จากที่เคยอุดหนุนสูงสุดเกือบ 12 บาท/ลิตร เหลือ 3.82 บาท/ลิตร คิดเป็นเงินที่กองทุนใช้อุดหนุนราคาน้ำมันลดลงเหลือ 236.63 ล้านบาท/วัน หรือประมาณ 7,336 ล้านบาท/เดือน และอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ลดลงเหลือ 44.71 ล้านบาท/วัน หรือประมาณ 1,386 ล้านบาท/เดือน รวมเป็นการแบ่งเบาภาระการอุดหนุนของกองทุนลดลงไปเป็นหมื่นๆ ล้านบาทต่อเดือน” นายพรชัยกล่าว

นอกจากนี้ กองทุนยังมีเงินฝากในธนาคารและที่กระทรวงการคลังรวมประมาณ 4,244 ล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่ากองทุนยังมีสภาพคล่องสามารถดูแลเสถียรภาพราคาดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 34.94 บาท ไม่เกินลิตรละ 35 บาท ต่อไปได้ตลอดเดือนก.ค.นี้ ประกอบกับเมื่อเงินสนับสนุนเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤตพลังงานวงเงิน 3,000 ล้านบาท ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาในระบบจะช่วยแบ่งเบาภาระการอุดหนุนของกองทุนลงได้อีกเดือนละ 1,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 เดือน

Advertisement

ปัจจุบันประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 ก.ค.2565 ติดลบ 112,935 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบในอัตราที่น้อยลงจากก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 74,162 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบ 38,773 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าการกู้เงินจากสถาบันการเงิน การนำส่งเงินจากกำไรส่วนเกินของโรงกลั่น และงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อมาเสริมสภาพคล่องของกองทุนนั้น ยังอยู่ระหว่างดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ให้ได้ข้อสรุป ซึ่งต้องติดตามความชัดเจนกับทางปลัดกระทรวงพลังงานต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image