เปิด 4 ข้อเสนอส.อ.ท.ถึงรัฐ ขอกู้ดอกต่ำ-มาตรการกู้ศก. โล่งเชื่อมั่นอุตฯ พุ่งรอบ 3 เดือน

ส.อ.ท. เสนอรัฐ 4 ข้อ เงินกู้ดอกต่ำ-มาตรการกู้ศก. โล่งความเชื่อมั่นอุตฯ เพิ่มครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน 2565 อยู่ที่ระดับ 86.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 84.3 เทียบกับเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของรัฐบาล ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่ภาคการผลิตมีทิศทางที่ดีขึ้นสอดดลัองกับดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าและยอดขายในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า รวมถึงการที่จีนได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ทำให้สั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยลบมาจากผลกระทบสงครามรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้ตันทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัวลง เนื่องจากหลายประเทศเผชิญปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้าชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

นายเกรียงไกร กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,335 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยในเดือนมิถุนายน 2565 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ ราคาน้ำมัน 90.3% สภาวะเศรษฐกิจโลก 69.0% สถานการณ์การเมือง 38.8% ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ 55.2% สถานการณ์ระบาดโควิด 52.3% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) อ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับเหรียญสหรัฐ 34.0% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 31.0

“ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ มี 4 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ภาครัฐเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ๆ เพื่อทดแทนตลาดที่ชะลอตัว และได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาทิ ตะวันออกกลาง แอฟริกา 2.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงานในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงภาคการท่องเที่ยวไทย ที่มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น ซึ่งการที่ต่างชาติเข้าเที่ยวไทยเพิ่ม จะเป็นตัวช่วยสู้ค่าเงินบาทให้อ่านค่าลดลง เพราะต่างชาติมีความต้องการใช้เงินบาทมากขึ้น 3.ส่งเสริมและปรับปรุงกฎระเบียบให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจ รวมถึงภาคประชาชน และ 4.สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อการประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นไปตามกระแสอีเอสจีด้วย” นายเกรียงไกร กล่าว

นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 96.7 ในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยพื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนต่อขยาย มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้นิดิบุดคล โดยบริษัทเอกชนที่นำพนักงานไปท่องเที่ยวในเมืองรองและเมืองหลัก เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งการยกเลิกไทยแลนด์ พาส ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image