ผวาสงครามชิปขาด-เมียนมาห้ามนำเข้า จ่อหั่นเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้เหลือ1.7ล้านคัน ด้านตลาดอีวีคึก แพคเกจรัฐน้ำมันแพงดันป้ายแดงบีอีวีมิ.ย.ทุบสถิติ
ส.อ.ท.เล็งลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 65 เหลือ 1.7 ล้าน หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนพ่นพิษ กดเป้าหมายผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคันวืด สวนทางเป้าผลิตเพื่อขายในประเทศ 8 แสนคันจ่อสูงขึ้น ด้านบีอีวีป้ายแดงมิ.ย.สร้างสถิติสูงสุด อานิสงค์แพคเกจอีวี-ราคาน้ำมันพุ่ง
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ยังคงติดตามปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์(ชิป)และชิ้นส่วนรถยนต์ใกล้ชิด เนื่องจากเริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกช่วง 6 เดือนของปีนี้(มกราคม-มิถุนายน2565) อาจทำให้เป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ลดลงจาก 1,800,000 คัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 800,000 คันและการส่งออก 1,000,000 คัน โดยจะพิจารณาปัจจัยต่างๆและประกาศตัวเลขทางการเดือนสิงหาคมนี้ เบื้องต้นอาจลดเหลือ 1,700,000 คัน
“เป้าที่ลดลงมาจากการส่งออกที่คงไม่ถึง 1 ล้านคัน เพราะผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนกระทบต่อการขาดแคลนชิป เพราะยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์เกือบ 70% ให้กับทั่วโลกเพื่อแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์ เพื่อใช้ผลิตชิป และจีนมีการล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ในช่วงเมษายน ทำให้การผลิตชิปหยุดชะงักงันอีก ชิปจึงขาดแคลนทั่วโลก ประกอบกับวิกฤตค่าเงินจ๊าดในเมียนมา ทำให้ห้ามนำเข้ารถยนต์ อาจกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ของไทยเช่นกัน ต้องติดตามผลกระทบจากนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เบื้องต้นน่าจะเกิน 800,000 คัน อาจเป็น 850,000 คัน แต่ก็กังวลภาวะเงินเฟ้อ การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่จะมีขึ้นเดือนสิงหาคมนี้ ”นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 143,016 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6.53% และ 6 เดือนแรก 870,109 คัน เพิ่มขึ้น 3.02% ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 67,952 คัน เพิ่มขึ้น 4.6% ช่วง 6 เดือน 427,399 คัน เพิ่มขึ้น 14.5% ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 73,887 คัน ลดลง 11% ช่วง 6 เดือน ลดลง 5.04%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จากมาตรการรัฐที่ออกแพคเกจส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ประกอบกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่(บีอีวี)ของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือนมิถุนายนข้อมูลรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่(ป้ายแดง) ประเภทรถยนต์นั่งมีถึง 872 คัน เพิ่มขึ้น 438.3% ทำสถิติสูงสุด เมื่อรวมบีอีวีทุกประเภทจะอยู่ที่ 1,623 คัน เพิ่มขึ้น 229.21% และภาพรวม 6 เดือนบีอีวีจดทะเบียนใหม่ 7,325 คัน เพิ่มขึ้น 169.40 จึงมั่นใจว่าปีนี้บีอีวีจดทะเบียนใหม่ของไทยจะถึง 10,000 คันแน่นอน